วันที่ 17 พ.ย. ที่อาคารรัฐสภา พริษฐ์ วัชรสินธุ สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงข้อกังวลของหลายฝ่ายเกี่ยวกับเงื่อนไขใน พ.ร.บ.ประชามติ
พริษฐ์ ระบุว่า ทั้งรัฐบาลฝ่ายค้านและภาคส่วนอื่นๆ มีข้อห่วงใยเกี่ยวกับการ กฎหมายประชามติ ที่ต้องใช้เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้น หรือ Double majority ที่บัญญัติในมาตรา 13 ของ พ.ร.บ.ประชามติ ที่อาจไม่เป็นธรรมต่อการทำประชามติในทุกหัวข้อ
เกณฑ์ชั้นที่ 1 คือจะต้องมีจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่งของผู้มีสิทธิ์ ส่วนชั้นที่ 2 คือ ต้องมีเสียงเห็นชอบเกินกึ่งหนึ่งของผู้ที่ออกมาใช้สิทธิ์ ซึ่งมี ความสุ่มเสี่ยงหากคนที่ไม่เห็นด้วยกับประเด็นที่ถูกถาม แทนที่จะออกมาใช้สิทธิ์แต่ใช้วิธีนอนอยู่บ้าน เพื่อคว่ำประชามติ แทนและหากบวกกับจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ก็จะไม่ถึงเกณฑ์ เสียงข้างมาก ชั้นแรก ก็จะทำให้ตกไป
พริษฐ์ เห็นว่าควรทบทวนกติกานี้โดยเฉพาะชั้นแรก พร้อมเสนอทางเลือก ในการแก้ไข 2 ประเด็นคือ ยกเลิกเกณฑ์ชั้นที่ 1 ไม่ต้องกำหนดจำนวนผู้ออกมาใช้สิทธิ์เกินกึ่งหนึ่ง ซึ่งบางประเทศ ไม่มีเกณฑ์ใช้เสียงข้างมาก 2 ชั้น และประชามติ 2 ครั้งของประเทศไทย ในการทำประชามติรับร่างรัฐธรรมนูญปี 2550 และ 2560 ก็ไม่ได้มีการกำหนดเกณฑ์สัดส่วนผู้ออกมาใช้สิทธิ์ ส่วนอีกหนึ่งทางคือ ให้เขียนว่า คนออกมาใช้สิทธิ์และลงคะแนนเห็นชอบ เกิน 25% หรือ 1 ใน 4 ของผู้มีสิทธิ์ทั้งหมด ซึ่งจ ะสามารถป้องกันยุทธศาสตร์การนอนอยู่บ้านเพื่อคว่ำประธรรมมติได้
สำหรับกระบวนการในการแก้ไขกฎหมาย พริษฐ์ กล่วว่า วิธีในการแก้ไขกฎหมายที่เรียบง่ายตรงไปตรงมาที่สุดคือให้รัฐบาลและฝ่ายค้าน ร่วมกันยื่นแก้ไขกฎหมาย พ.ร.บ.ประชามติ มาตรา 13 ซึ่ง ถ้าดำเนินการยื่นเสนอไว้ เมื่อสภาเปิดสมัยประชุมช่วงเดือน ธ.ค. ก็สามารถที่จะพิจารณาวาระแรกได้ทันที และเชื่อว่าจะสามารถผ่าน 3 วาระไปได้ โดยจะไม่กระทบต่อ กรอบเวลาในการจัดทำประชามติ แก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐบาล ตามไทม์ไลน์ที่รัฐบาลวางไว้ว่าจะเคาะว่าจะทำประชามติหรือไม่ในช่วงต้นเดือนมกราคม 2567 เพราะเป็นการแก้ไขแค่มาตราเดียว
พริษฐ์ กล่าวด้วยว่า นอกจากประเด็นเรื่อง มาตรา 13 เกณฑ์เสียงข้างมาก 2 ชั้นแล้ว ไหนๆ จะแก้ไข พ.ร.บ.ประชามติ ถ้าไม่กระทบกรอบเวลาในการพิจารณาอาจพิจารณาประเด็นอื่นควบคู่ไปด้วยเช่น จะทำอย่างไรให้กฎหมายประชามติรองรับการจัดทำประชามติวันเดียวกับการเลือกตั้งอื่นๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้ง สส. หรือเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ปัจจุบันมีข้อจำกัดที่อาจทำให้การดำเนินการด้านธุรการยุ่งยาก ถ้าแก้ไปด้วยก็จะเป็นวิธีหนึ่งที่จะทำให้สามารถเลือกวันลงประชามติได้ยืดหยุ่นมากขึ้นและอาจมีประชาชนออกมาใช้สิทธิ์มากขึ้นได้ในช่วงพร้อมกับการเลือกตั้ง นอกจากนี้ ยังเสนอให้แก้ไขกรณีการเข้าชื่อของประชาชนเพื่อทำประชามติ 50,000 รายชื่อทางออนไลน์ได้ด้วย