วันนี้ (11 พ.ย.60)เมื่อเวลา 11.00น. ที่สถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ทางนายสัมฤทธิ์ ฉิมท้วม อายุ 75 ปี บิดาพร้อมด้วยญาติเดินทางมารับศพนายธนัท ฉิมท้วม หรือ โจ บอยสเก๊าท์ อายุ 44 ปี นักร้องศิลปิน หลังจากมีอาการวูบหมดสติบนเวทีขณะทำการแสดงที่ร้านคัลเลอร์บาร์ ซอยลาดพร้าว 94 แขวงพลับพลา เขตวังทองหลาง กรุงเทพฯ เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

นายสัมฤทธิ์ กล่าวว่า ตนมาทราบข่าวการเสียชีวิตของลูกชายตอนตี 3 ขณะที่ลูกชายกำลังร้องเพลงและเกิดอาการหมดสติล้มวูบไป ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกชายไม่เคยบ่นหรือแสดงอาการว่าป่วยเลยเพราะกลัวว่าพ่อจะเป็นห่วง แต่ละครั้งโจจะโทรศัพท์ติดต่อมาหาพ่ออยู่ตลอดเพื่อถามความเป็นอยู่ สารทุกข์สุขดิบและถามพ่อว่ามีเงินใช้หรือไม่ ได้คุยกับโจครั้งสุดท้ายก่อนขึ้นแสดงที่ร้านดังกล่าวและมีนัดกับทางครอบครัวไปงานศพคุณป้าในวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้ โดยที่ตนและครอบครัวไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น สำหรับลูกชายของตนนั้นเป็นคนร่าเริง น่ารัก เวลาไปเล่นดนตรีที่ไหนก็มักจะโทรศัพท์มาหาพ่ออยู่เสมอ อีกทั้งเป็นเสาหลักของครอบครัวที่ดีมาก

นางบุษกร ฉิมท้วม ญาติและผู้จัดการและผู้ดูแล เปิดเผยว่า ตนเองยังรู้สึกช็อกและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เนื่องจากสนิทกับโจและอยู่กับโจมาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ซึ่งก่อนหน้านี้ตนเองไม่ทราบว่าโจมีโรคประจำตัว เท่าที่ได้คุยกับโจก็ไม่พบสิ่งผิดปกติ ประกอบกับช่วงนี้มีงานเข้ามาเยอะทำให้ตัวของโจพักผ่อนไม่เพียงพอจนเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้น ยอมรับว่าทางญาติรวมถึงเพื่อนศิลปินในวงการยังทำใจไม่ได้กับการจากไปอย่างกะทันหัน อย่างไรก็ตามทางญาติจะนำร่างของนายธนัท ฉิมท้วม ไปตั้งบำเพ็ญกุศลต่อที่ศาลาช้าง วัดสายไหม เป็นเวลา 5 วัน และจะประกอบพิธีฌาปนกิจในวันที่ 16 พ.ย. ต่อไป

ด้าน พล.ต.ต.นพ.พรชัย สุธีรคุณ รรท.รองแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เปิดเผยว่า สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตของนายธนัทนั้นที่ระบุในเบื้องต้นว่ามีน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 300 มิลลิกรัมนั้น เป็นเพียงการหาสาเหตุชี้นำ แต่สำหรับสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริงเกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตาย

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะที่ญาติรอรับศพของนายธนัทมีทางแฟนคลับนำเสื้อกำมะหยี่สีดำ หมวกคาวบอยสีน้ำตาลและแว่นตาสีดำ ซึ่งเป็นชุดที่โจ บอยสเก๊าท์ ใส่ขึ้นแสดงที่ร้านดังกล่าวมาสวมใส่ให้และแต่งหน้าศพเหมือนให้โจ บอยสเก๊าท์ ยังมีชีวิตอยู่