นายบุญเลิศ คชายุทธเดช หรือ ช้างใหญ่ อดีตสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ (สปช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เปรียบการเลือกตั้งในขณะนี้ว่า เหมือนกับลิเกเพิ่งโหมโรง ออกแขก ถ้าเป็นมวยก็เพิ่งไหว้ครู การเมืองเรื่องการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นเรื่องซับซ้อนและยอกย้อนมีเงื่อนไขมากมาย ตำราร้อยเล่มเกวียนอาจน้อยไปสำหรับกลเกมการโรมรันในศึกเลือกตั้งครั้งนี้ ส่วนพรรคไหนจะได้รับเลือก ส.ส.กี่คน ภายใต้กติกาใหม่ ผู้ใช้สิทธิ์กาบัตรใบเดียว 

พร้อมกับระบุว่า มีตัวแปรหรือเหตุปัจจัยสำคัญ10ประการที่จะพลิกผันต่อการแพ้ชนะ ได้แก่

1.หัวหน้าพรรคมีความโดดเด่น น่าศรัทธาหรือไม่

2.ผู้ถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกฯ เป็นที่ต้องการและยอมรับของคนส่วนใหญ่หรือไม่

3.นโยบายพรรคที่สำคัญคืออะไร จะทำได้จริงแค่ไหน แก้ปัญหาเศรษฐกิจ เรื่องปากท้องได้หรือไม่

4.ผู้สมัครมีชื่อเสียง มีฐานเสียงและพวกพ้องในเขตมากน้อยแค่ไหน

5.จุดยืนของพรรคที่แบ่งเป็น 3 ขั้ว คือขั้วคสช. ขั้วตรงข้ามคสช.และอยู่กลางๆ ประชาชนชอบแบบไหน

6.ผู้จะเป็นรัฐมนตรีในบัญชีรายชื่อ พรรคไหนเสนอตัวได้น่าสนใจมากกว่ากัน

7.เงินที่เปรียบเหมือนกระสุนดินดำ

8.กลยุทธ์การสื่อสาร/การใช้สื่อโซเชียล/การรณรงค์หาเสียง / การสร้างภาพลักษณ์ของพรรคและผู้นำพรรค

9.การปรับตัว แก้เกมการเมืองได้ทันท่วงที

10.การมีพรรคสำรองหรือพรรคน้อง จะส่งผลถึงคะแนนรวมของพรรคนั้นๆ รวมทั้งการมีพรรคแนวร่วมที่จะรวบรวมเสียงให้ได้เกินครึ่งเพื่อจัดตั้งรัฐบาล

นายบุญเลิศกล่าวว่า จากนี้ไปจนถึงวันเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 แบ่งออกเป็น 3 ระยะคือระยะที่ 1 ช่วงคลายล็อค 90 วัน ระยะที่2 ช่วงความชัดเจนในเรื่องหัวหน้าพรรค เสนอชื่อนายกฯและส่งผู้สมัครในวันเปิดรับสมัครรับเลือกตั้งภายหลังมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้ง ได้เบอร์และระยะที่ 3 ช่วงรณรงค์หาเสียงและช่วงโค้งสุดท้ายก่อนถึงวันลงคะแนน

"เลือกตั้งครั้งนี้จะเข้มข้น ดุเดือดและตื่นเต้นมากที่สุด เป็นที่น่าสนใจไม่แต่คนไทยที่ว่างเว้น การเลือกมานานเกือบ 10 ปี นับจากปี 2554 เป็นต้น คนทั่วโลกก็สนใจไม่แพ้กัน" นายบุญเลิศกล่าว

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :

• โพลชี้ ประชาชนเชื่อเลือกตั้งแล้วเศรษฐกิจจะดีขึ้น
• 'วิษณุ' ย้ำเลือกตั้งยังคง ม.44 - รัฐบาลไม่ต้องรักษาการ - หาเสียงนอกเวลาราชการได้