หลังจากเมื่อคืนนี้ (29 พ.ย.) 15 แกนนำกลุ่มคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวหลังจากถูกจับกุมตัวในช่วงของการสลายการชุมนุมเมื่อ 27 พฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยต้องนอนในเรือนจำ 1 คืน และได้รับการปล่อยตัวสู่ครอบครัวและเครือข่ายภาคประชาชนเรียบร้อยแล้ว แต่อย่างไรก็ตามในคดีนั้นพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุทำร้ายเจ้าพนักงานเพิ่มเติมอีก โดยจากการตรวจสอบภาพขณะเกิดเหตุ พบว่า ยังมีผู้ร่วมก่อเหตุอยู่อีกประมาณ 20 คนนอกเหนือจากผู้ต้องหาในคดีนี้ที่ถูกจับกุมดำเนินคดีแล้วจำนวน 16 คน ซึ่งพนักงานสอบสวนในคดีนี้อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อเตรียมขอออกหมายจับเพิ่มในเร็วๆ นี้

นายบรรจง นะแส ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) กล่าวว่า หลังจากนี้ถ้ารัฐบาลคิดว่าอยากจะปราบปรามกลุ่มชาวบ้านที่เดินเท้ามาเพื่อคัดค้านโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพาให้อยู่หมัดก็จะดำเนินการลักษณะเดียวกับคดีท่อก๊าซฯไทย-มาเลเซีย โดยจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ

"ครั้งนี้ทางเราจะไม่รอช้าอาทิตย์หน้าเตรียมรับหมายศาลได้เลย จะดำเนินการฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบทำให้ชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ ขอให้เตรียมตัวกันทั้งสองฝ่าย ในเมื่อเจ้าหน้าที่รัฐยืนยันที่จะใช้กลไกทางกระบวนการยุติธรรมกัน" นายบรรจงกล่าว

ขณะเดียวกันทางเครือข่ายนักวิชาการ ได้จัดตั้ง "กองทุนสู้คดีเทใจให้เทพา" เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านคดี สำหรับผู้ที่ต้องถูกดำเนินคดีจาก "กิจกรรมการเดิน..เทใจให้เทพาหยุดโรงไฟฟ้าถ่านหิน" โดยได้เปิดบัญชีเพื่อขอบริจาคสมทบบัญชี เป็นบัญชีออมทรัพย์ธนาคารไทยพานิชย์ สาขามหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เลขที่บัญชี 565-491810-0 (บัญชีเป็นชื่ออาจารย์ทั้งสามท่าน) ประกอบด้วย อาจารย์ธีรวัฒน์ ขวัญใจ รองคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดร.สินาด ตรีวรรณไชย อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลนครินทร์ และนางสาวอิสรา เจียมวิทยานุกูล ที่ปรึกษา กป.อพช.ใต้ ขณะนี้ยอดบริจาคมีมากกว่า 5 แสนบาทแล้ว