พรรคเพื่อชาติ นำโดยนายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ว่าที่หัวหน้าพรรคและนางลินดา เชิดชัย ว่าที่เลขาธิการพรรค เปิดตัวนางลลิตา ฤกษ์สำราญ อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร นายวัฒนา พัทรชนม์ อดีตรองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก นายสมชาย คุ้มคูล อดีตคณบดีคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ น.ส.ปรียานุช ทรงประกอบ นายธฤทธิ์ ดอกไธสง และนางสาวกุฎารัศมิ์ กุลฉัตร
โดยพรรคเพื่อชาติ จะเดินสายเปิดศูนย์ประสานงานประจำจังหวัด ในภาคอีสานและเหนือ ซึ่งจะมีสถาบันพัฒนาการเมืองของพรรคเพื่อให้ความรู้ทางการเมืองแก่สมาชิก นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และนายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา เป็นวิทยากรหลัก โดยจะมีนายสงคราม พร้อมคณะทำงานลงพื้นที่ด้วย
ส่วนกำหนดการนั้น วันที่ 15-16 พ.ย. จะเดินทางไปจังหวัดนครราชสีมา วันที่ 17-18 พ.ย. ไปจังหวัดชัยภูมิ จังหวัดเลยและจังหวัดเพชรบูรณ์ และ วันที่ 20 พ.ย. จะเดินทางไป 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก่อนที่จะถึงการประชุมใหญ่สามัญพรรค ครั้งที่ 3 ในวันที่ 23 พ.ย. ซึ่งจะจัดขึ้นที่ศูนย์ประชุม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธาน นปช. ระบุว่า ยุทธศาสตร์แตกแบงก์พันที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ระบุเป็นไปตามรัฐธรรมนูญที่ออกแบบไว้ ถ้าไม่แตกแบงก์พันก็เหลือค่าแค่ 700 บาท แต่ถ้าแตกแล้วก็มีมูลค่าถึง 1,500 บาท ฝ่ายนายสุเทพแตกไว้ 5 พรรค ดังนั้นวันนี้ความต้องการของประชาชนมี 3 เรื่องคือความสงบ มีเลือกตั้ง และมีรัฐบาลมาแก้ปัญหาเศรษฐกิจความเดือดร้อนของประชาชน
นายจตุพร ระบุว่า การเลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ. 2562 ถ้าเลื่อนออกไปรัฐบาลจะเกิดล้มละลายในสายตาประชาชน แต่ผู้ที่จะเลื่อนการเลือกตั้งคือ กกต. โดยความไม่พร้อมของ กกต.ที่บอกว่าเหลือ 12 พรรคการเมืองที่ยังไม่พร้อม เพราะเหลือเวลาอีก 12 วันที่จะต้องสังกัดสมาชิกพรรคให้ได้ภายในวันที่ 26 พ.ย.นี้ ดังนั้น กกต.จึงควรตกลงกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน โดยไม่ต้องหลอกลวงประชาชนอีกต่อไป
นายจตุพร ยังเห็นว่า พรรคที่ใหญ่ที่สุดในทางการเมือง คือ ส.ว.ที่มาจากการแต่งตั้ง 250 คน ซึ่งสามารถเลือกนายกรัฐมนตรีได้ด้วย จึงเรียกร้องให้ ส.ว.ทั้ง 250 คน ควรยึดเจตนารมณ์ของสภาผู้แทนราษฎร คือ หากพรรคการเมืองสามารถรวมเสียง ส.ส.ได้เกิน 250 คน ควรได้จัดตั้งรัฐบาล ไม่ควรใช้ ส.ว.เข้ามายุ่งเกี่ยวกับการจัดตั้งรัฐบาล เพราะหากใช้เสียงของ ส.ว. มาช่วยจัดตั้งรัฐบาลก็จะเป็นรัฐบาลเสียงข้างน้อยในสภา ซึ่งจะไม่สามารถบริหารงานได้และจะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต
ข่าวที่เกี่ยวข้อง