รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภาคเอกชน ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติที่ผ่านมา เห็นชอบเพิ่มประชากรวัยแรงงานระบบประกันสังคม รวม 16 ล้านคน เป็นกลุ่มเป้าหมายในการรับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 โดยมีสํานักงานประกันสังคม และจังหวัดจะเป็นผู้รวบรวมจำนวนและรายชื่อแรงงานที่จะรับวัคซีนโควิด-19 เพื่อส่งให้กระทรวงสาธารณสุข ขณะเดียวกันก็เร่งฉีดวัคซีนโควิด-19 ให้กลุ่มเสี่ยง ผู้สัมผัสเสี่ยง และประชาชนทุกๆ คนให้มากที่สุดและเร็วที่สุด เพื่อเร่งควบคุมการแพร่ระบาดได้เร็วที่สุด โดยข้อมูลล่าสุดได้มีการฉีดสะสมแล้ว 1,809,894 โดส โดยในพื้นที่ กทม.การฉีดวัคซีนโควิด-19 สะสม 315,504 โดส
สำหรับในพื้นที่ กทม. จัดสถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลทั่วพื้นที่ กทม. 25 แห่ง เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินทางมาฉีดวัคซีนได้สะดวกมากขึ้น เน้นกลุ่มที่มีอาชีพเสี่ยงที่มีโอกาสสัมผัสกับคนจำนวนมาก เช่น พนักงานขับรถโดยสารประจำทาง แท็กซี่ วินมอเตอร์ไซค์ คนขับเรือ ครู เป็นต้น โดยจะเปิดให้บริการฉีดวัคซีนครบทั้งหมด 25 แห่งในวันที่ 21 พ.ค. มีเป้าหมายจะฉีดวันละ 50,000 คนให้แก่ประชาชนกลุ่มอาชีพเสี่ยง เช่น ครู ผู้ขับขี่รถสาธารณะ พนักงานเก็บขยะ เป็นต้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ขณะเดียวกัน ยังให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในโรงพยาบาลในพื้นที่ กทม. อีก 126 แห่ง สำหรับกลุ่มผู้ป่วยโรคเรื้อรัง 7 กลุ่มโรค เป้าหมายวันละ 30,000 คน รวมแล้วจะฉีดให้ได้วันละ 80,000 คน