กรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเรื่อง "พายุไซโคลน "อำพัน" บริเวณอ่าวเบงกอล (มีผลกระทบถึงวันที่ 21 พ.ค. 2563)" ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 19 พ.ค. 2563 เมื่อเวลา 04.00 น. พายุไซโคลน "อำพัน" บริเวณอ่าวเบงกอลตอนกลาง มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 15.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 86.6 องศาตะวันออก มีความเร็วสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 220 กม/ชม และกำลังเคลื่อนตัวทางทิศเหนือค่อนตะวันออกเล็กน้อยด้วยความเร็วประมาณ 15 กม/ชม โดยจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณประเทศอินเดียตอนบนและประเทศบังคลาเทศ
ในระยะต่อไป พายุนี้ส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย มีกำลังแรงขึ้น ลักษณะเช่นนี้ในช่วงวันที่ 19-21 พ.ค. 2563 บริเวณประเทศไทยจะมีฝนตกหนักบางพื้นที่ โดยเฉพาะทางด้านตะวันตกของประเทศ ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันมีกำลังค่อนข้างแรง โดยตั้งแต่จังหวัดภูเก็ตขึ้นมาทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร เว้นแต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองจะมีคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการเดินเรือเข้าใกล้พายุ และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงเวลานี้ สำหรับประชาชนบริเวณภาคเหนือ ภาคใต้ฝั่งตะวันตก และภาคใต้ตอนบน ระวังอันตรายจากฝนที่ตกหนักและฝนที่ตกสะสมไว้ด้วย
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
ในวันที่ 19 พ.ค. 2563
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง แพร่ อุตรดิตถ์ ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู อุดรธานี หนองคาย บึงกาฬ สกลนคร นครพนม ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท นครสวรรค์ สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: จังหวัดระนอง พังงา และภูเก็ต
ในวันที่ 20-21 พ.ค. 2563
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน ตาก สุโขทัย กำแพงเพชร พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองบัวลำภู ชัยภูมิ ขอนแก่น นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี อุทัยธานี สุพรรณบุรี ชัยนาท สมุทรสาคร สมุทรสงคราม และนครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้ฝั่งตะวันออก: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
ภาคใต้ฝั่งตะวันตก: จังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง