ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน รายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. ศาลอาญา อ่านคำพิพากษา คดีม้อบ REDEM ละเมิดอำนาจศาล โดยคดีนี้มีผู้ถูกล่าวหา 5 คน ประกอบด้วย ศุภกิจ บุญมหิทานนท์ ผู้ถูกล่าวหาที่ 1, วีรภาพ วงษ์สมาน ผู้ถูกล่าวหาที่ 2, พัชรวัฒน์ โกมลประเสริฐกุล ผู้ถูกล่าวหาที่ 3 และจุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ผู้ถูกล่าวหาที่ 4 และ ศรัณย์ อนุรักษ์ปราการ ผู้ถูกล่าวหาที่ 5
โดยศาลสั่งทั้ง 5 คนมีความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล จากกรณีทำกิจกรรมแห่คาราวาน และปามะเขือเทศ ปาไข่ และสาดสีใส่ป้ายศาลอาญา เพื่อเรียกร้องให้ศาลคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังการเมือง แต่เนื่องจากผู้ถูกกล่าวหาทั้งหมด นำสืบข้อเท็จจริงเป็นประโยชน์แก่การพิจารณามีเหตุบรรเทาโทษ จึงลดโทษให้คนละ 1 ใน 3
โดยศาลสั่งลงโทษจำคุก จุฑาทิพย์ ศิริขันธ์ ผู้ถูกกล่าวหาที่ 4 กำหนดโทษ 2 ปี และให้คุมความประพฤติรายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุมความประพฤติ 3 เดือนต่อครั้ง ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 1-3 และที่ 5 ได้ร่วมชุมนุมโดยใช้ความรุนแรงกันเหมือนกัน และไม่นำพาต่อความสงบเรียบร้อยจึงไม่มีเหตุรอการลงโทษ ศาลจึงสั่งกักขังทั้ง 4 โดย ผู้ถูกกล่าวหา 1-3 กำหนด 40 วัน ส่วนผู้ถูกกล่าวหาที่ 5 ให้กำหนด 2 เดือน โดยขณะนี้ทนายความได้ยื่นคำร้องขอประกันตัวแล้ว กำลังรอผลการพิจารณา
สำหรับคดีนี้เกิดขึ้นจากการชุมนุมของกลุ่ม REDEM เมื่อวันที่ 2 พ.ค. ประกาศชุมนุมหน้าศาลอาญาเพื่อเรียกร้องให้ศาลคืนสิทธิประกันตัวให้ผู้ต้องขังทางการเมือง ซึ่งก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 64 แม้ “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์ อดอาหารเรียกร้องสิทธิประกันตัวร่วมเดือนครึ่ง จนมีอาการถ่ายเป็นชิ้นเนื้อ แต่ศาลอาญาก็ไม่ให้ประกันเพนกวิน รวมทั้งนักกิจกรรมที่ถูกคุมขังในคดีมาตรา 112 คนอื่นๆ รวม 7 ราย แต่อย่างใด
โดยกิจกรรมในวันดังกล่าว กลุ่มผู้ชุมนุมได้เคลื่อนคาราวานจากอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิมาที่ศาลอาญา จากนั้นมีกิจกรรมปามะเขือเทศ-ไข่ ใส่ป้ายศาลอาญา พร้อมทั้งปราศรัยโจมตีรองอธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ชนาธิป เหมือนพะวงศ์ ผู้ลงนามในคำสั่งไม่ให้ประกันตัวผู้ต้องขังทางการเมืองหลายครั้ง เป็นการประท้วงเชิงสัญลักษณ์ ก่อนยุติการชุมนุมด้วยความสงบ
ต่อมา 1 ชั่วโมงให้หลังการประกาศยุติการชุมนุม เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนได้ใช้กำลังเข้าสลายการรวมตัวของกลุ่มบุคคลประมาณ 20-30 คน ที่หลงเหลือ และจับกุมบุคคลรวม 4 ราย โดยเป็นเยาวชนชาย 1 ราย แจ้งข้อหาร่วมกันต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่, ร่วมกันทำลายทรัพย์สินผู้อื่น, มั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป ก่อความวุ่นวาย และฝ่าฝืนข้อกำหนดตาม พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ โดย 1 ในผู้ถูกจับเพียงแต่เข้าไปขายเสื้อและหนังสือในที่ชุมนุม และ 3 ราย ได้รับบาดเจ็บระหว่างการจับกุมของเจ้าหน้าที่