ไม่พบผลการค้นหา
นักวิชาการย้ำอุบัติเหตุซ้ำยังมาจากพฤติกรรมขับรถเร็ว ชี้ภาครัฐควรส่งเสริมการรับรู้ให้ประชาชนยอมรับและใช้ความเร็วตามมาตรฐานที่ถนนรองรับได้ ขณะที่สถิติอุบัติเหตุเดือนมิถุนายนกลับมาสูงขึ้นเกือบเท่ากับช่วงก่อนเกิดโควิด-19

จากกรณีอุบัติเหตุเกิดเหตุรถจักรยานยนต์ล้มคว่ำ บนถนนเส้นทาง บ้านดอนดึง หนองม่วง หมู่ที่ 7 มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย หลังจากนั้นอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูจุดบ้านหมี่ ได้ไปยังจุดที่เกิดเหตุ และระหว่างให้การช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 1 ราย ปรากฏว่ามีรถยนต์กระบะสีดำ วิ่งมาด้วยความเร็วสูง พุ่งชนเจ้าหน้าที่อาสาสมัครฯ ที่กำลังช่วยเหลือคนเจ็บอยู่ ได้รับบาดเจ็บสาหัสทันที 7 คน

นพ.วิทยา ชาติบัญชาชัย ผู้อำนวยการศูนย์ความร่วมมือขององค์การอนามัยโลกด้านการป้องกันอุบัติเหตุ กล่าวว่า ต้องแสดงความเสียใจกับครอบครัวที่สูญเสีย เพราะเหตุที่เกิดขึ้นเป็นระหว่างการช่วยเหลือผู้ประสบภัย อย่างไรก็ตามในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะช่วงกลางคืนหากจุดที่ทำงานไม่มีความสว่างมากพอ เป็นไปได้ที่จะทำให้เกิดเหตุเช่นนี้ ทั้งนี้การทำงานเชื่อมั่นว่าทุกคนได้ผ่านการอบรมมาแล้ว แต่เนื่องจากสถานการณ์ที่เร่งรีบ ความสว่างอาจไม่เพียงพอ อาจเป็นปัจจัยทำให้เกิดสาเหตุทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ทั้งนี้จึงอยากให้ปฏิบัติตามหลักความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้ยังพบว่าสถิติการเกิดอุบัติเหตุในช่วงเดือนมิถุนายนที่ผ่านเริ่มกลับมามีจำนวนเท่ากับช่วงก่อนเกิดวิกฤตโควิด-19 แล้ว ทั้งที่เคยลดจำนวนลงมามากอย่างเห็นได้ชัด

ด้านนางกัณวีร์ กนิษฐพงศ์ ผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการด้านวิศวกรรมจราจร ระบุว่า สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุในประเทศไทยอันดับหนึ่ง ยังคงเป็นเรื่องความเร็ว ซึ่งถือว่าเป็นพฤติกรรม ดังนั้นต้องแก้ไขพฤติกรรมนี้ และเมื่อเห็นสิ่งผิดปกติบนท้องถนนต้องชะลอความเร็ว ไม่ใช่ยังขับเร็วต่อไป มีความเสี่ยงสูงในการเกิดอุบัติเหตุซ้ำ และในถนนบางเส้นควรติดป้ายกำกับความเร็วให้เหมาะสมกับเส้นทาง โดยสร้างการรับรู้ให้ประชาชนยอมรับและทำตาม ที่สำคัญภาครัฐไม่ควรมีนโยบายส่งเสริมให้ใช้ความเร็วเกินมาตรฐานของถนนที่รองรับได้ หรือ เร็วเกินป้องกันให้เกิดความปลอดภัยได้