เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 17 ก.พ. 2566 ที่ลานศาลากลางเก่า อ.เมือง จ.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีใหญ่ปราศรัย ภายใต้ชื่อ ‘อุบลราชธานี คิดใหญ่ ทำเป็น เพื่อไทยทุกคน’ ท่ามกลางประชาชนที่มารอรับฟังการปราศรัยกว่า 25,000 คนแน่นเต็มพื้นที่
โดยพรรคเพื่อไทย มีแกนนำและผู้บริหารพรรคขึ้นปราศรัย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ประเสริฐ จันทรรวงทองส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เกรียง กัลป์ตินันท์ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย จาตุรนต์ ฉายแสง คณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมืองพรรคเพื่อไทย ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย อดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยยังเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย ทั้ง 11 เขต ประกอบด้วย วรสิทธิ์ กัลป์ตินันท์ , ณรงค์ชัย วีระกุล , กิตติ์ธัญญา วาจาดี , เอกชัย ทรงอำนาจเจริญ, รัฐกิตติ์ ผาลีพัฒน์, ธัญธารีย์ สันตพันธุ์, สุดารัตน์ พิทักษ์พรพัลลภ, เอกพล ญาวงศ์ , ประภูศักดิ์ จินตะเวช , สมคิด เชื้อคง และชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ รวมทั้งเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.อำนาจเจริญ และ ยโสธร ด้วย
เกรียง กัลป์ตินันท์ แกนนำพรรคเพื่อไทย และอดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า 20 ปีที่แล้ว ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาเปิดสาขาพรรคที่จังหวัดอุบลราชธานี ในช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อปี 2543-2549 ทำให้ความเป็นอยู่ของคนอุบลราชธานีเปลี่ยนไปมากมาย โครงการต่างๆ ที่ทำไว้ คนอุบลราชธานีและคนอีสานไม่ลืมว่า ดร.ทักษิณ ชินวัตรคือผู้ก่อตั้งพรรคไทยรักไทย พลังประชาชน และเพื่อไทยในปัจจุบัน ดร.ทักษิณคือจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย วันนี้ลูกสาวของ ดร.ทักษิณ อาจเป็นว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าถูกใจพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
“แพทองธาร ชินวัตร เป็นคนที่ทุกคนยอมรับเช่นเดียวกับที่ทุกคนยอมรับ ดร.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เพราะการเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ใช่แค่เรื่องนโยบาย แต่เป็นเรื่องการทำงานร่วมกับรัฐมนตรี 36 คน ถ้าไม่ใช่คนที่คนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ก็จะบริหารประเทศชาติไม่ได้ ถึงบริหารได้ก็บริหารได้ไม่ดี” เกรียงกล่าว
จาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และคณะกรรมการยุทธศาสตร์และทิศทางการเมือง พรรคเพื่อไทย ขึ้นเวทีปราศรัย ‘คิดใหญ่ทำเป็นเพื่อไทยทุกคน’ ยกย่องนักการเมืองอีสานเป็นนักต่อเพื่อประชาธิปไตยมาทุกยุคและเป็นกำลังหนุนสำคัญในการจัดตั้งรัฐบาลมาทุกสมัย พร้อมย้ำนโยบายของพรรคเพื่อไทย ทำจริงทำได้ทันที และคนอีสานจะได้ประโยชน์มากที่สุด
จาตุรนต์ กล่าวว่านับแต่อดีตที่ผ่านมา แผ่นดินอีสานเป็นแผ่นดินของนักต่อสู้ทางการเมืองมาตั้งแต่สมัยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง พ.ศ.2475 ส.ส.อีสานมีความโดดเด่นในฐานะทำงานเป็นปากเป็นเสียงให้พี่น้องชาวอีสานเราเคยได้ยินชื่อส.ส.ทองอินทร์ ภูริพัฒน์ ซึ่งก็เป็นนักการเมืองอุบลราชธานี ที่โด่งดังซึ่งถูกกำจัดทางการเมืองด้วยการยัดเยียดข้อหากบฎรุนแรงจนนำไปสู่การวิสามัญฆาตกรรมอันน่าเศร้า แต่นั้นไม่เคยทำให้นักการเมืองคนเก่งแห่งเมืองอีสานหายไป
นักการเมืองอีสานทุกยุคสมัยพยายามต่อสู้เพื่อศักดิ์ศรีชาวอีสาน ต่อสู้ให้พี่น้องอีสานได้รับความเจริญพ้นความยากจน แต่ว่าระบบการเมืองไทยในอดีตไม่เอื้อ จนกระทั่งในปี 2544 มีนักการเมืองหนึ่งที่มีวิสัยทัศน์ ตั้งพรรคการเมืองขึ้นมา โดยชูนโยบาย 30 บาทรักษาทุกโรค นโยบายกองทุนหมู่บ้านไปทั่วประเทศ แล้วประชาชนก็เลือกอย่างถล่มทลาย เมื่อได้เป็นรัฐบาล ก็นำเอานโยบายเหล่านี้ไปประกาศในรัฐสภา นำไปปฏิบัติทันทีภายในปีแรกและทุกนโยบายสำเร็จภายใน 4 ปี พรรคนั้นคือพรรคไทยรักไทย ที่มี ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ส่งผลให้ชนะการเลือกตั้งต่อเนื่องอีกในสมัยพรรคพลังประชาชน และพรรคเพื่อไทย
จาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ทำไมคนอีสาน ถึงเคารพและรัก ดร.ทักษิณ ทั้งที่ ดร.ทักษิณ ไม่ใช่คนอีสาน และดร.ทักษิณ ก็ไม่ได้มาบอกว่าจะทำให้แต่คนอีสานไม่ช่วยคนภาคอื่น นโยบายนั้นเป็นประโยชน์กับทุกคนทุกภาคทั้งประเทศไม่ไว้ใคร ทั้งกองทุนหมู่บ้าน หรือ 30 บาทรักษาทุกโรคแต่ทำไมคนอีสานถึงรักพรรคไทยรักไทยจนถึงเพื่อไทย เพราะสิ่งที่ไม่เหมือนกันก็คือว่า ภาคอีสานเดือนร้อนที่สุด ยากจนที่สุด เมื่อมีนโยบายออกมาเป็นประโยชน์ต่อคนจนรากหญ้า คนอีสานจึงได้รับประโยชน์จากนโยบายเหล่านั้น เมื่อมีการยึดอำนาจยกเลิกนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ชาวอีสานจึงเป็นกลุ่มคนที่เดือดร้อนที่สุดจนต้องออกมาต่อสู้ ไม่ใช่ต่อสู้ให้พรรคเพื่อไทย แต่ต่อสู้เพื่อให้ตนเองได้นโยบายที่เป็นประโยชน์แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ และทำให้ชีวิตดีขึ้นกลับมาต่างหาก
“ภาคอีสานเรายากจนแห้งแล้ง เมื่อพรรคเพื่อไทยมีนโยบายที่มีประโยชน์ พี่น้องได้ประโยชน์ พี่น้องก็เลือกพรรคเพื่อไทยจนเราจัดตั้งรัฐบาลมาได้ทุกสมัย เลือกตั้งคราวหน้าเขาก็จะขัดขวางเราแน่นอน เขาไม่ต้องการให้เราชนะ พี่น้องชาวอีสาน ต้องช่วยกัน ช่วยกันเลือกเพื่อไทยให้ถล่มทลาย เพื่อเราจะได้ตั้งรัฐบาลของพี่น้อง เอานโยบายที่มีประโยชน์กับพี่น้องไปปฏิบัติ เราต้องเอาชนะเสียง 250 ของ ส.ว.ให้ได้ เพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์ถ้วนหน้าโดยเฉพาะพี่น้องภาคอีสานที่เดือดร้อนที่สุดจะได้ประโยชน์มากที่สุด” อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าว
‘ชลน่าน’ปลุกเลือก ‘เพื่อไทย’ ยกจังหวัดอุบลฯ
ด้าน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน และหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ในการเลือกตั้งครั้งนี้ ขออาสามารับใช้พี่น้องประชาชนชาว จ.อุบลราชธานี ยกจังหวัดให้ชนะเลือกตั้งอย่างถล่มทลาย แลนด์สไลด์ทั้งอุบลฯ และต้องได้มากกว่า 250 ที่นั่งขึ้นไป เพื่อเอา พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ออกไป เป็นรัฐบาลมา 8 ปีคนไทยมีทุกข์ที่ยิ่งใหญ่ เกิดมามีหนี้แล้วคนละ 500,000 บาท เป็นหนี้ที่ต้องรับผิดชอบใช้หนี้ถึงลูกถึงหลานก็ไม่หมด ทุกครัวเรือนเป็นหนี้รวมกัน 14 ล้านล้านบาทหนี้สาธารณะ 10 ล้านล้านบาท นี่คือทุกข์อันยิ่งใหญ่ เพื่อไทยขออาสามาแก้หนี้ที่พอกพูนมา 8 ปีให้พี่น้องประชาชน ดังนั้น เข้าคูหา กาเพื่อไทยทั้ง 2 บัตร
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า ขณะนี้คะแนนนิยมเลือกพรรคเพื่อไทยมาเป็นอันดับ 1 ทุกภาค รวมถึงภาคใต้ แสดงให้เห็นว่าคนทั้งประเทศต้องการให้เพื่อไทยมาทำหน้าที่เป็นรัฐบาลของพี่น้องประชาชน ความมั่นใจที่พี่น้องประชาชนมอบให้นี้ เรื่องแรกสุดคือ ส.ส.ของพรรคเพื่อไทย เรื่องที่ 2 คือนโยบาย พรรคไหนก็พูดได้ แต่พรรคที่ทำเป็นและทำได้จริงคือพรรคเพื่อไทย และเรื่องที่ 3 คือว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีที่มีความรู้ความสามารถ เป็นคนรุ่นใหม่
“มีหลายพรรคมาขอให้ช่วยเลือกพรรคของเขา บอกว่าเราเป็นพรรคพี่พรรคน้องกัน เลือกตั้งเสร็จจะร่วมมือกัน ขออย่าหลงเชื่อเป็นอันขาด พรรคเพื่อไทยไม่มีสาขา มีแต่เพื่อไทย เพื่อพี่น้องประชาชนเท่านั้น ขอให้เลือกพรรคเพื่อไทยทั้ง 2 ใบ ให้แลนด์สไลด์ยกจังหวัดอุบลฯ” นพ.ชลน่าน กล่าว
‘อิ๊งค์’ แย้มแผนพัฒนาคมนาคม ‘อุบลฯ’ รับนักท่องเที่ยวสร้างรายได้
แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวปราศรัยว่า จ.อุบลราชธานีมีศักยภาพทางเศรษฐกิจ พร้อมขยายการค้าไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านอย่าง ลาว กัมพูชา จีน และเวียดนาม แต่การทำรัฐประหารทำให้การพัฒนาต้องหยุดชะงัก พี่น้องประชาชนต้องเสียโอกาสทางเศรษฐกิจและเผชิญกับหนี้สินแทน ในเลือกตั้งครั้งต่อไป พรรคเพื่อไทยจึงมีแผนพร้อมพัฒนา จ.อุบลราชธานี ให้มีระบบคมนาคมที่สะดวกสบายครบครัน ทั้งรถไฟความเร็วสูง และสนามบินใหญ่ เพื่อประหยัดเวลา และลดต้นทุนขนส่ง ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า โดยเฉพาะเกษตรกรสามารถนำสินค้าเกษตรส่งไปขายได้ทั่วประเทศ และทั่วโลก จึงขอเสนอแผนพัฒนาสนามบินใหญ่ที่มีความทันสมัย พร้อมให้ จ.อุบลราชธานีรองรับนักท่องเที่ยวได้เพิ่มขึ้นสร้างรายได้ผ่านการท่องเที่ยว สร้างอาชีพให้คนในพื้นที่ เปิดช่องทางเศรษฐกิจใหม่ ขยายแหล่งานได้ทั้งใน จ.อุบลราชธานี และทั่วประเทศ ให้ประชาชนได้มีอนาคตที่ดี
แพทองธาร ยังได้ย้ำนโนบายด้านการเกษตรและเทคโนโลยีที่จะช่วยเหลือประชาชนให้มีช่องทางสร้างรายได้เพิ่มขึ้นผ่านการส่งออกสินค้าเกษตร โดยมีรัฐบาลเป็นตัวกลางการสื่อสารระหว่างพี่น้องเกษตรกรและตลาดโลก เพิ่มความสะดวกสบายให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น เหนื่อยน้อยลง พร้อมย้อนถึงผลงานของรัฐบาลพรรคไทยรักไทยเป็นเครื่องพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่า การแก้ไขปัญหาที่รวดเร็วสามารถทำได้จริง ตอกย้ำความเชื่อมั่นว่าเมื่อพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลจะพร้อมแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน
“พรรคเพื่อไทยมีนโยบายมากมายที่จะทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทยและชาวอุบลราชธานี มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ไม่ต้องตื่นมากังวลเรื่องหนี้สิน อยากให้ตื่นขึ้นมาพร้อมอนาคตที่สดใส เราเสียโอกาสกันมามากพอแล้ว พรรคเพื่อไทยขอเข้ามาดูแลพี่น้องในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ต้องแลนสไลด์ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค” แพทองธาร กล่าว
จากนั้น ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัยว่า พรรคเพื่อไทยรู้ว่าเกษตรกรยังต้องแบกภาระหนี้สิน พรรคเพื่อไทยจึงเสนอนโยบาย ‘พักหนี้เกษตรกรทันที 3 ปี พักต้น พักดอก’ เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่เกษตรกรที่มีภาระหนี้สิน จากปัญหาราคาพืชผลการเกษตรตกต่ำ ขายข้าวผลไม้ไม่ได้ราคา หรือเหตุสุดวิสัย ให้พักฟื้น ฟื้นฟูวิถีชีวิต เพื่อกลับมามีรายได้อีกครั้ง โดยเกษตรกรที่เข้าโครงการไม่ต้องชำระทั้งต้นทั้งดอก เป็นระยะเวลา 3 ปี เพื่อจะได้มีเวลาไปเร่งทำงานหาเงินได้อย่างไม่มีภาระกังวล ส่วนทหารเกณฑ์เป็นแบบสมัครใจ เพื่อให้ลูกหลานได้ไปประกอบอาชีพหารายได้
“ช่วยกันเลือกเพื่อไทย เพื่อให้ได้ลืมตาอ้าปากอีกครั้ง ปิดประตูหัวใจอย่าปันใจให้ใครตั้งแต่คืนนี้ ตัดสินใจให้เด็ดขาดเดินเข้าคูหา กาบัตร 2 ใบ เลือกเพื่อไทยทั้งคนทั้งพรรค เอาแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี เลือกเพื่อไทยให้แลนด์สไลด์ทั้ง จ.อุบลราชธานี เราจะได้นโยบายดีๆ จากรัฐบาลเพื่อไทย เพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินปากท้องให้พี่น้องต่อไป” ณัฐวุฒิกล่าว
ณัฐวุฒิ กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยมีนโยบายยกระดับชีวิต ยกระดับรายได้ ขยายโอกาส จึงตั้งใจนำเสนอนโยบายให้พี่น้องประชาชน ไม่ว่าจะเป็นนโยบายโครงการรถไฟฟ้าความเร็วสูง ที่เคยเสนอแต่ถูกล้มไปสมัยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นโยบายโครงสร้างพื้นฐานรถไฟรางคู่ พร้อมรองรับทั้งนักท่องเที่ยวและขนส่งสินค้าเกษตรนโยบายฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกให้ผู้หญิงที่อายุถึงเกณฑ์ ในขณะที่นโยบายของรัฐบาลฝพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก่อหนี้สินให้ประเทศชาติเป็น 10 ล้านล้านบาทและผลักภาระมาให้คนไทยต้องใช้หนี้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยไม่เคยมีนโยบายแจกเงิน เรามุ่งยกระดับคุณภาพชีวิต ขยายโอกาสรายได้ให้พี่น้องประชาชนและลูกหลาน