ไม่พบผลการค้นหา
'นิคม' หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ลงพื้นที่แจกข้าวกล่องประชาชนที่วัดสมรโกฏิ จ.นนทบุรี เผยพบประชาชนลำบาก กังวลเรื่องปากท้องมากกว่าโควิด-19 ย้ำรัฐควรปลดล็อก พ.ร.ก.ฉุกเฉินและใช้สภาฯ หารือแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วน

นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย ลงพื้นที่แจกข้าวกล่องที่วัดสมรโกฏิ จ.นนทบุรี โดยเริ่มตั้งแต่เมื่อวันที่ 18 เม.ย.ที่ผ่านมา เวลา 10.00 น.-14.00 น. และเมื่อวันที่ 25 เม.ย. มีบริการโรงทานเคลื่อนที่ ไปแจกถึงบ้านตามที่พี่น้องร้องขอมา ซึ่งถึงแม้จะมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการลงแจกข้าวกล่อง

"เรายังดำเนินการต่อเนื่องเพราะพี่น้องเราทานข้าวกล่องจากเรา โดยเฉพาะถนนสนามบินน้ำ ตรงข้ามกองสลาก มีประชาชนตากฝนมารับข้าวกล่องจำนวนมาก จากการพูดคุย ประชาชนหลายคนบอกว่า ตอนนี้ลำบากมากๆ ไม่กลัวโรคโควิด-19 แล้ว กลัวลูกเมียอดตายมากกว่า"

5144985.jpg

นอกจากนี้ นายนิคม เห็นว่ารัฐบาลควรจะปลดล็อก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ได้แล้ว การควบคุมไม่ให้ประชาชนออกนอกเคหสถานช่วง 22.00 น. ถึง 04.00 น.ไม่ได้มีผลต่อการควบคุมโควิด-19 แต่อย่างใด เนื่องจากในเวลาดังกล่าวประชาชนไม่ได้ออกมาทำกิจกรรมที่จะให้เชื้อแพร่กระจายอะไรอยู่แล้ว แต่จะกระทบกับผู้ที่เดินทางไปมาหรือผู้ที่ค้าขายตลาดเช้า ประชาชนบางคนถูกจับดำเนินคดี เนื่องจากกลับบ้านไม่ทัน บางคนถูกปรับ บางคนถูกจำคุก ยิ่งเป็นการซ้ำเติมพี่น้องที่ลำบากอยู่แล้ว ให้ลำบากมากขึ้น

ฉะนั้นการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน จะเป็นประโยชน์มากกว่า ส่วนจังหวัดใดที่ปลอดเชื้อโรคระบาด ก็ควรจะเปิดให้มีการค้าขายปรกติ เพื่อลดความเดือดร้อนก่อนเศรษฐกิจจะพังและสายเกินแก้ไข การใช้มาตรการทางสาธารณสุขที่เข้มงวดก็เพียงพอในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคอยู่แล้ว

"รัฐบาลไม่ควรมองการแก้ปัญหาเพียงมิติเดียว คือจะเอาชนะโควิด-19 อย่างเดียว แต่กลับแพ้ทุกอย่าง อย่าลืมว่าความมั่นคงของประเทศมีหลายมิติ ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ความมั่นคงทางการศึกษา สังคมประเพณีและ วัฒนธรรม การบริหารประเทศต้องใช้ศิลปะรอบด้านอย่ามองเพียงด้านใดด้านหนึ่ง อย่าเชื่อเพียงคนใดคนหนึ่งหรือฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ประเทศไทยปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เป็นตัวแทนพี่น้องประชาชน รัฐบาลจึงควรใช้สภาในการปรึกษาหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเป็นการเร่งด่วนจึงจะถูกต้องตามหลักการบริหารปกครอง แต่รัฐบาลกลับนิ่งเฉยไม่ให้ความสำคัญกับสภา แต่กลับไปหารือกับนักธุรกิจแทน การแก้ไขปัญหาของรัฐบาลจึงล่าช้าและไม่ถูกทางเท่าที่ควร ประชาชนได้รับการช่วยเหลือเยียวยาล่าช้าไม่ทั่วถึง ถ้ายังช้าแบบนี้ต่อไประวังจะเกิดความเสียหายรุนแรงจนยากแก่การแก้ไขครับ" นายนิคม ระบุ