ไม่พบผลการค้นหา
เลขาธิการ กกต. อ้ำอึ้ง กกต.จังหวัดเรียกสอบหนุ่มโพสต์คลิป สมัครสมาชิก พปชร. แลกบัตรคนจน พร้อมยืนยันจะเดินหน้าสอบโต๊ะจีน พปชร. ในกรอบ 30 วัน อ้างอยู่ขั้นรวบรวมหลักฐาน ขณะที่พรรคเพื่อไทยเข้าร้อง กกต.ให้สอบพรรคการเมืองดำเนินการสมัครสมาชิกพรรคพ่วงบัตรคนจน ชี้เข้าข่ายผิดกฎหมายพรรคการเมือง

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่ากำลังดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริง กรณีการจัดโต๊ะจีนระดมทุนของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นไปตามขั้นตอนการตรวจสอบ แต่ยังไม่ถึงขั้นตอนของการเชิญสื่อมวลชนที่เผยแพร่ผังโต๊ะจีนระดมทุนมาให้ข้อมูล แต่เมื่อถึงเวลาก็อาจมีหนังสือเชิญมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมอีกครั้งหนึ่ง ส่วนที่เป็นห่วงว่าการใช้เวลาในการตรวจสอบ 30 วันนั้นอาจจะยาวนานเกินไปนั้นยืนยันว่าเป็นเพียงการกำหนดกรอบเวลาให้ไม่เกิน 30 วันเท่านั้น ซึ่งบางคดีก็ใช้เวลาเพียงไม่กี่วัน หากการแสวงหาพยานหลักฐานตามกระบวนการมีความชัดเจน

ส่วนกรณีการตรวจสอบกรณีจูงใจให้สมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เพื่อแลกกับการได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ รับทราบว่า กกต.ประจำจังหวัด ได้เชิญผู้บันทึกภาพมาให้ข้อมูลแล้ว แต่ขณะนี้ยังไม่ได้รายงานผลมาที่ส่วนกลาง จึงอยู่ระหว่างรอรายงานการตรวจสอบอยู่ ส่วนกรณีที่ผู้ว่าราชการจังหวัดระบุว่าเป็นความเข้าใจผิดจากวันที่จัดงานแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ กับ วันที่เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคพลังประชารัฐอยู่ติดๆ กันนั้นยังไม่ทราบข้อมูลในส่วนนี้ 

เพื่อไทย จี้ กกต.เร่งสอบ ปมรับสมัครสมาชิกพรรค พ่วงบัตรคนจน

ขณะที่นายชุมสาย ศรียาภัย ฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นคำร้องต่อ กกต.ให้ดำเนินการตรวจสอบและสอบสวนกรณีที่มีพรรคการเมืองกระทำการรับสมัครสมาชิกพรรคพ่วงกับการแจกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเงิน100 บาท ซึ่งเป็นพฤติการณ์ที่เชื่อว่าเป็นการกระทำผิดต่อ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง และ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. โดยได้มอบหลักฐานภาพข่าว เนื้อข่าวและคลิปเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นให้กับทางเจ้าหน้าที่ทั้งหมดแล้ว ดังนั้น กกต.ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ที่มีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายจะต้องดำเนินการตรวจสอบให้เกิดความชัดเจนตามกฎหมาย ส่วนกระแสข่าวที่ว่ามีการนำตัวผู้โพสต์คลิปเหตุการณ์ไปปรับทัศนคติแล้วนั้นก็เป็นเรื่องของ กกต.ที่จะต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติม 

นายกฯ อ้าง จนท.เข้าใจแจกบัตรคนจนต้องสมัครสมาชิก พปชร.

ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีมีเจ้าหน้าที่นำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐไปแอบอ้างเป็นนโยบายพรรคพลังประชารัฐว่า วันนี้มีการชี้แจงและมีการกล่าวอ้างหลายอย่าง ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ออกมารับผิดและชี้แจงแล้วว่าเป็นความไม่เข้าใจและเข้าใจผิด นอกจากนี้ในส่วนของพรรคการเมืองตนก็ได้เตือนไปแล้วให้ระมัดระวังในการชี้แจง

เช่นเดียวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ระบุว่า พรรคพลังประชารัฐได้ออกมาชี้แจงแล้ว จากนี้เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ ว่าจะดำเนินการอย่างไร 

ส่วนตัวไม่รู้เรื่องเพราะเป็นเรื่องของพรรคพลังประชารัฐ พร้อมยืนยันว่าไม่มีสั่งการ เพื่อเรียกใครมาปรับทัศนคติ จากนี้จะปล่อยให้หาเสียง แต่ถ้าบิดเบือนมาก ก็ยังจำเป็นต้องเรียกมาปรับทัศนคติเช่นกัน

จับสลาก 413 ผู้ตรวจการเลือกตั้ง คุมเลือก ส.ส.ทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน นายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. และกกต. ร่วมกันจับสลากแต่งตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้งประจำจังหวัด สำหรับปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้ง ส.ส. จำนวน 413 คน จากรายชื่อผู้ตรวจการเลือกตั้งที่ได้ขึ้นบัญชีไว้ทั้งหมด 583 ราย โดยการจับสลากครั้งนี้แบ่งเป็น 10 กลุ่มจังหวัด โดยแต่ละจังหวัดจะมีผู้ตรวจการเลือกตั้งที่มีภูมิลำเนาเดิมอยู่ในจังหวัดนั้นเพียง 2 คน ส่วนที่เหลือจะได้รับการจับสลากมาจากผู้มีภูมิลำเนาในจังหวัดอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มจังหวัดเดียวกัน โดยจำนวนผู้ตรวจการเลือกตั้งในต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับจำนวนเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้นๆ ตั้งแต่ประมาณ 5-8 คน ซึ่งหลังจับสลากจะมีการเสนอรายชื่อต่อที่ประชุม กกต.เพื่อพิจารณาแต่งตั้งต่อไป

พ.ต.อ.จรุงวิทย์ กล่าวเพิ่มว่า การจับสลากผู้ตรวจการเลือกตั้งเพื่อที่จะไปทำหน้าที่ในการเลือกตั้ง ส.ส. โดยจะมีผู้ตรวจการเลือกตั้ง 413 คน ไปปฎิบัติหน้าที่ในกลุ่มจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศ โดยมีหน้าที่ตรวจการทำงานของกรรมการประจำหน่วย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง โดยการปฎิบัติงานของผู้ตรวจการเลือกตั้ง ส.ส. จะเริ่มเมื่อมีการประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้งออกมา