ที่สตูดิโอ กันตนา ถ.รัชดาภิเษก ณวัฒน์ อิสรไกรศีล ผู้อำนวยการและผู้ก่อตั้งกองประกวด Miss Grand International พร้อมด้วย ฮาน เลย์ Miss Grand Myanmar 2020 ตั้งโต๊ะตอบคำถามกับสื่อมวลชน
ณวัฒน์ กล่าวว่า ตอนนี้ฮาน เลย์อยู่ภายใต้การดูแลของกองประกวด 100% ซึ่งกองประกวดจะรับผิดชอบทุกอย่าง โดยเบื้องต้นจะดูแลเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 3 เดือนก่อน ส่วนกรณีที่ฮาน เลย์ กล่าวสุนทรพจน์บนเวทีในรอบสุดท้ายของการประกวดเมื่อวันที่ 27 มีนาคมที่ผ่านมานั้น เมื่อเทียบกับกฎหมายของคณะปฏิวัติ ถือว่ามีความผิดร้ายแรง เพราะกฎหมายห้ามนานาชาติให้การช่วยเหลือ จึงอาจเป็นอันตรายต่อ ฮาน เลย์
ณวัฒน์ ยังกล่าวด้วยว่าขณะนี้กำลังมีการขอวีซ่าทำงานกับทาง ตม. เพื่อให้ฮาน เลย์ สามารถทำงานภายในประเทศไทยได้ถูกต้องตามกฎหมาย สำหรับประเด็นการขอลี้ภัยทางกองประกวดจะดำเนินการร่างคำขอลี้ภัยไปยังประเทศที่สาม หากฮาน เลย์ต้องการ ซึ่งมีหลายประเทศยื่นความจำนงมาว่าต้องการให้ความช่วยเหลือ
ส่วนมาตรการรักษาความปลอดภัยของ ฮาน เลย์ อยู่ภายใต้การดูแลของทีมงาน 24 ชั่วโมง โดยมีพี่เลี้ยงประกบตลอดเวลา แม้กระทั่งเวลานอน นอกจากนี้ยังมีการจัดเตรียมเรื่องอาหารการกินให้ หากต้องเดินทางไปพบสื่อมวลชนจะพบเท่าที่จำเป็นเท่านั้น และต้องขออภัยที่ไม่สามารถให้ข้อมูลกับหน่วยงานราชการได้มากไปกว่านี้ เพราะจุดประสงค์การติดต่อยังไม่แน่ชัด
อย่างไรก็ตาม ณวัฒน์ มองว่า กรณีนี้เป็นสิ่งที่ทั่วโลกเทใจสนับสนุนการออกมาเรียกร้องของฮาน เลย์เป็นอย่างมาก เราเป็นมนุษยชาติ หน้าที่ของเราจึงต้องหยิบยื่นความช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ถือเป็นกฎหมายสากล และสิทธิมนุษยชนไม่มีพรมแดน สำหรับนโยบายขององค์กรมิสแกรนด์อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นที่ชัดเจนอยู่แล้วว่าทำงานภายใต้แคมเปญ 'ยุติสงครามและความรุนแรง' ซึ่งการที่ตนทำงานในองค์กรระดับนานาชาติ จึงเปิดโอกาสให้ ฮาน เลย์ ได้พูดถึงประเด็นนี้อย่างเต็มที่
ฮาน เลย์ กล่าวขอบคุณนานาชาติ รวมทั้งสื่อมวลชนที่ให้ความสนใจต่อสถานการณ์ภายในเมียนมา พร้อมเผยว่า หลังจากได้พูดออกไปก็ทำให้คนรับรู้ถึงสถานการณ์ในประเทศของเธอมากยิ่งขึ้น ว่ามีผู้คนบาดเจ็บและเสียชีวิตไปมากเท่าไหร่ ซึ่งตอนนี้ครอบครัวของตนเองยังปลอดภัยดีเนื่องจากว่าครอบครัวไม่ได้อยู่ที่ย่างกุ้งแต่อยู่ที่เมาะลำไย โดยเก็บตัวอยู่แต่ภายในบ้าน และไม่ได้ออกไปข้างนอก
สำหรับเรื่องที่คนที่ไม่ได้ให้ความสนใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเมียนมา เพราะมองว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องกิจการภายในประเทศ ตนยืนยันว่าอยากให้มองจากพื้นฐานความเป็นมนุษย์ ไม่อยากให้มองเพียงว่าเป็นการเมืองระหว่างประเทศ เพราะหากมองด้วยหลักความเป็นมนุษย์จะเข้าใจถึงความรู้สึก และความยากลำบากของประชาชนชาวเมียนมา
เมื่อสื่อมวลชนถามว่าอยากบอกอะไรประชาคมโลก เธอบอกว่าประชาชนชาวเมียนมา ไม่สามารถออกมาเรียกร้องเกี่ยวกับเรื่องภายในประเทศได้ จึงอยากให้ประชาคมโลกให้การช่วยเหลือ เช่น ต้องการความช่วยเหลือจากองค์การสหประชาชาติในทันที จึงเป็นสาเหตุที่เธอออกมาพูดถึงข้อเรียกร้องนี้ อีกทั้งเธอยังมองว่าการประกวดมิสแกรนด์ ถือเป็นช่องทางในการเป็นกระบอกเสียงที่ดีให้กับประชาชนชาวเมียนมา และสร้างความตระหนักรู้ให้กับนานาชาติถึงความสำคัญของสันติภาพ
นอกจากนี้ ถึงแม้ตัวเธอจะไม่เชี่ยวชาญเรื่องการเมือง แต่เธอมองว่าการเมืองเป็นเรื่องของทุกคน เธอจึงตัดสินใจพูด และเผยว่าแม้จะมีการใช้ความรุนแรงในเมียนมา แต่คนในเมียนมาก็ส่งแรงใจมาสนับสนุนเธอ พร้อมขอร้องให้เธอช่วยเหลือผ่านการสื่อสารกับประชาคมโลกต่อไป
ฮาน เลย์ กล่าวทั้งน้ำตาว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ประชาชนชาวเมียนมา ก็ยังคงยืนหยัดเพื่อต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยต่อไป ส่วนกรณีที่มีประชาชนต้องการบริจาคเงินเพื่อให้การช่วยเหลือ เธอกล่าวขอบคุณ พร้อมบอกว่า ตนเองไม่ขอรับเงินบริจาค อยากให้ไปบริจาคแก่องค์กรที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยในเมียนมากกว่า ซึ่งตนเองจะขอทำงานเพื่อแลกกับรายได้
ในช่วงท้ายของการสัมภาษณ์ เธอทิ้งท้ายว่า “ประชาชนชาวเมียนมาต้องการความช่วยเหลือจากนานาชาติอย่างเร่งด่วน ในแต่ละวันผู้คนบาดเจ็บและล้มตายเป็นจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ แล้วพวกเขารออะไรอยู่ กระบวนการและขั้นตอนที่ล่าช้านั้น ไม่ควรสำคัญไปกว่าหลักมนุษยธรรมไม่ใช่หรือ ขอให้การช่วยเหลือพวกเราในทันที ได้โปรด”