สิระ เจนจาคะ ประธานกรรมาธิการการกฎหมายยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน (กมธ.กฎหมาย) กล่าวถึง กรณีศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เปิดโปงกลางที่ประชุมคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 (กมธ.ร่างงบประมาณฯ) เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่ผ่านมา ว่ามีอนุกรรมาธิการฯ รายหนึ่งโทรศัพท์ไปเรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ ว่าเป็นเรื่องที่สร้างความเสื่อมเสียให้กับสภาผู้แทนราษฎรเป็นอย่างมาก จึงต้องค้นหาความจริงให้กระจ่างว่าเรื่องราวเป็นอย่างไร มีตัวละครใดเข้าไปเกี่ยวข้องบ้าง
อีกทั้งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีหลักฐานยืนยันคำกล่าวอ้างของตัวเองหรือไม่ ดังนั้นจะขอมติที่การประชุมกรรมาธิการฯ เพื่อสอบข้อเท็จจริงเรื่องนี้ และเรียกอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมาชี้แจง ในสัปดาห์หน้า
"เราตั้งชื่อสภาแห่งนี้ว่า สัปปายะสภาสถาน สัปปายะ แปลว่า สบาย ในทางธรรม หมายถึง สถานที่ประกอบแต่กรรมดี ถ้ามีคนใช้สภาประกอบกรรมชั่วจริง คนนั้นก็ต้องได้รับผลจากกรรมที่ตัวเองกระทำลงไป จะปล่อยผ่านไปไม่ได้ เพราะเรื่องนี้มีเกียรติยศของฝ่ายนิติบัญญัติเป็นเดิมพัน และจะให้กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯ สอบกันเอง ผมก็คิดว่าไม่เหมาะ เนื่องจากเป็นผู้มีส่วนได้เสีย ดังนั้นกรรมาธิการกฎหมายถือเป็นคนกลาง ไม่มีส่วนได้เสียกับใคร เราจะหาความจริงเพื่อจัดการกับแกะดำ" สิระ กล่าว
ทั้งนี้กระบวนการตรวจสอบไม่คิดว่าจะใช้เวลานาน เพราะหากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลมีหลักฐานบันทึกเสียงการสนทนา ก็จะเป็นตัวมัดการกระทำผิดของอนุกรรมาธิการฯ คนดังกล่าว แต่ถ้าไม่มีหลักฐาน เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ ก็ต้องระบุตัวบุคคลให้ชัดว่า ใครเป็นผู้เรียกรับเงิน เพื่อหาความจริงทั้ง 2 ด้าน เพราะเรื่องนี้ยิ่งปล่อยให้เนิ่นนานออกไป ก็ยิ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของสภาฯ
อ่านเพิ่มเติม