ไม่พบผลการค้นหา
ประธานาธิบดีศรีลังกาเตรียมปัดฝุ่นบทลงโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ใหม่ในรอบกว่า 40 ปี ระบุ ได้รับแรงบันดาลใจจากสงครามยาเสพติดของฟิลิปปินส์

ไมตรีผลา สิริเสนา ประธานาธิบดีศรีลังกา ประกาศว่าจะนำบทลงโทษประหารชีวิตกลับมาใช้ในคดีที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติด เพื่อป้องกันและปราบปรามผู้กระทำผิดด้วยมาตรการขั้นเด็ดขาด ทั้งยังระบุว่าได้รับแรงบันดาลใจจากรัฐบาลฟิลิปปินส์ ซึ่งประกาศสงครามต่อต้านยาเสพติดช่วงที่ประธานาธิบดีโรดริโก ดูแตร์เต ดำรงตำแหน่ง นับตั้งแต่เดือน มิ.ย.2559 เป็นต้นมา

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ประธานาธิบดีสิริเสนาเดินทางเยือนฟิลิปปินส์เมื่อเดือน ม.ค. 2562 และได้กล่าวชมเชยวิธีการขั้นเด็ดขาดของนายดูแตร์เต เมื่อเดินทางกลับประเทศศรีลังกา ปธน. สิริเสนาได้ประกาศรับสมัครเพชฌฆาต ทั้งยังระบุว่าจะเริ่มนำบทลงโทษประหารชีวิตมาใช้กับคดียาเสพติดภายในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า 

ขณะที่ ธลัทธา อะธูโคราล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมของศรีลังกา เปิดเผยกับสถานีโทรทัศน์ นิวส์ 18 ว่าตำแหน่งเพชฌฆาตที่รับสมัคร จะประจำอยู่ที่เรือนจำกลางในกรุงโคลัมโบ เมืองหลวงศรีลังกา รวม 2 ตำแหน่ง โดยเริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่วันจันทร์ 11 ก.พ.2562 ที่ผ่านมา แต่ไม่ได้ระบุว่าจะปิดรับสมัครเมื่อใด 

ทางด้านสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเพิ่มเติมว่าทางการศรีลังกากำหนดให้ผู้สมัครตำแหน่งเพชฌฆาตจะต้องเป็นชายที่มีอายุระหว่าง 18-45 ปี โดยคุณสมบัติที่สำคัญคือ 'มีจิตใจเข้มแข็ง' และ 'มีศีลธรรมอันดี'  

ขณะที่ ปธน.สิริเสนาระบุว่า จะเริ่มดำเนินการลงโทษประหารชีวิตนักโทษในคดีค้ายาเสพติดในอีก 2-3 เดือนข้างหน้า โดยที่ปัจจุบัน ศรีลังกามีนักโทษที่ถูกลงโทษประหารชีวิต 48 ราย แบ่งเป็น 30 รายที่อยู่ระหว่างยื่นเรื่องขออุทธรณ์ และ 18 รายที่คดีเป็นอันสิ้นสุด และอยู่ระหว่างรอการลงโทษประหารชีวิตตามคำสั่งของประธานาธิบดี

แม้ผู้นำศรีลังกาจะชื่นชมสงครามต่อต้านยาเสพติดของฟิลิปปินส์ แต่สหประชาชาติ รวมถึงองค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่เห็นด้วยกับมาตรการดังกล่าวของรัฐบาลฟิลิปปินส์ เพราะทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 8,000 คน ส่วนใหญ่ถูกวิสามัญฆาตกรรมโดยยังที่ไม่มีโอกาสเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมตามกฎหมาย

นอกจากนี้ยังมีผู้ยื่นเรื่องร้องเรียนเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าใช้กำลังเกินกว่าเหตุ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบและได้รับอันตรายถึงชีวิต