ไม่พบผลการค้นหา
เผย 4 แกนนำคณะราษฎร ทุกข์ทรมานอยู่ลำบาก อัตราเสี่ยงสูงรับเชื้อโควิดและแพร่ต่อไปอีก เพราะคุกล้น นอนห้องละ 30-40 คน

สมยศ พฤกษาเกษมสุข แกนนำกลุ่มราษฎร เปิดเผยผ่านเฟซบุ๊ก Somyot Pruksakasemsuk ถึงสถานการณ์ของ แกนนำคณะราษฎร 4 คน ในสถานการณ์โควิดในเรือนจำพิเศษกรุงเทพ ระบุ ยากลำบาก เป็นความทุกข์ทรมานแสนสาหัส

สมยศ เล่าว่า อานนท์ นำภา , พริษฐ์ ชีวารักษ์ , ภาณุพงค์ จาดนอก , ไชยอมร แก้ววิบูลย์พันธ์ ทั้ง 4 คน นอกจากถูกคุมขัง สูญเสียอิสรภาพ กลายเป็นนักโทษระหว่างการพิจารณาคดีของศาล เนื่องจากไม่ได้รับสิทธิประกันตัวนั้นจะเป็นนักโทษมีสถานภาพต่ำกว่านักโทษที่คดีเด็ดขาดแล้ว กล่าวคือ ไม่ได้รับประโยชน์การอภัยโทษ พักโทษ ไม่ได้รับโอกาสการร่วมกิจกรรมเช่น เล่นดนตรี หรือเข้าร่วมการอบรม หรือการได้รับข่าวสาร เหมือนกับนักโทษเด็ดขาดแล้ว 

แต่ทั้งสองอย่างนี้ เป็นนักโทษหรือผู้ต้องขังอยู่ด้วยกัน เป็นความทุกข์ทรมานแสนสาหัสสำหรับทั้งสี่คน และที่ต้องทุกข์ทรมานเป็นทวีคูณก็คือเมื่อต้องมาศาลออกนอกเรือนจำ ต้องถูกกักตัวอยู่แดนสอง ซึ่งเป็นที่กักกันสำหรับนักโทษใหม่และนักโทษที่มาขึ้นศาล จึงเป็นความทรมานอีกชั้นหนึ่งที่กดทับบุคคลทั้งสี่คน  

"สำหรับเพนกวินที่อดข้าวด้วยแล้ว ยิ่งจะต้องทรมานเพิ่มขึ้นเป็นพิเศษอีกด้วย วันแรกเข้าเรือนจำ เพนกวินน้ำหนัก 110 กก.ขณะนี้ลดลงเหลือ 96 กก. ครั้งสุดท้ายผมมองเขาในกล้องวงจรปิดแทบจำไม่ได้แล้ว

ก่อนที่ผมกับไผ่ออกจากเรือนจำ มีคนติดเชื้อโควิดไปแล้วคือเจ้าหน้าที่ 1 คน นักโทษ 3 คน เป็นเหตุให้ต้องกักตัวคนอื่นๆ ที่อยู่ในไทมไลน์ของคนกลุ่มนี้ โดยที่เรือนจำมิได้แจ้งให้ทราบอย่างเปิดเผยว่ามีคนติดเชื้อโควิดแล้ว 

สำหรับชูเกียรติ แสงวงศ์ ถือเป็นรายที่ี 5 ในแดนสองจึงถือว่า เป็นนรกสำหรับนักโทษ ผมและพวกถูกกักกันต่อเนื่องเพราะออกศาลติดต่อกัน เป็นเวลาถึงสามรอบที่จำเป็นต้องถูกกักตัวในห้องขนาด 5X10 เมตร ห้องน้ำขนาดเล็กมาก ยกสูงจากพื้น ไม่มีประตูที่มองเห็นตั้งแต่หัวถึงตีน ศาลได้เห็นภาพกล้องวงจรปิด จากกรณีที่รองอธิบดีราชทัณฑ์มีความขยันตรวจโควิดตอนเที่ยงคืนและตอนตีสอง เพื่อมาแยกห้องไม่ให้อยู่ด้วยกัน ถึงกับอุทานว่าเป็นสภาพที่น่าเวทนาเป็นอย่างยิ่ง (สำหรับผมอยู่มาก่อนจนด้านชาไม่รู้ว่ามันน่าสมเพทเวทนาแบบนั้น)

ทั้งสี่คนจึงมีอัตราเสี่ยงสูงต่อการรับเชื้อโควิด ขณะเดียวกันก็อาจเป็นตัวไปแพร่เชื้อต่อไปอีกด้วยเนื่องจากความหนาแน่นของนักโทษในเรือนจำ และต้องนอนอยู่ด้วยกันห้องขังละ 30-40 คน

สำหรับการถูกกักโรคของผม ยังทำให้ต้องนั่งกินข้าวกับพื้นหรือนั่งดูทีวีหรือนั่งคุยกัน  หัวเข่าจึงเสื่อมลงอย่างรวดเร็วต้องกินยาแก้ปวดตลอด 3 ช่วงของการกักโรค ซึ่ีงมีความเครียดและเจ็บปวดสูงกว่าปกติ

อานนท์ นำภา และภาณุพงศ์ จาดนอก ยืนสงบ ร่วมกับ ยืน หยุด ขัง หน้าศาลฎีกา ทุกวันระหว่างเวลา 18.00-18.30 ซึ่งเป็นช่วงสวดมนต์ ตั้งแต่วันที่ 21 เมษายนเป็นต้นมา 

เพนกวินและเอมมี่ กับจัดสติน อยู่ชั้นสองสถานพยาบาล เนื่องจากเพนกวินต้องให้น้ำเกลือ วันที่ 21 เมษายน ชูเกียรติป่วยมีอาการเจ็บคอ ไข้สูง ปวดเมื่อย จึงถูกส่งตัวไปรักษาพยาบาล และในวันเสาร์ที่ 24 เมษายน 2564 เรือนจำส่งตัวชูเกียรติไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์เนื่องจากผลการตรวจเลือดเป็นบวก โดยทางโรงพยาบาลจะตรวจละเอียดและจะแจ้งผลให้ทราบอย่างเป็นทางการในวันจันทร์ 26 เมษายน 64"