คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ที่ อ.ศรีบุญเรือง จ.หนองบัวลำภู ถึงกรณีที่ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ระบุกับคณะรัฐมนตรีว่า "ประเทศชาติจะสงบถ้าฝ่ายค้านและรัฐบาลเป็นมิตรต่อกัน" โดยระบุว่าหลักการที่ พล.อ.เปรมพูด เป็นหลักการที่ถูกต้อง เป็นหลักการที่อยู่ในศาสนา คือ คนเราจะคิดต่างกัน แต่ต้องคิดดีพูดดีทำดีต่อกัน ไม่ใช่ไปใส่ร้ายป้ายสีตั้งป้อมกัน ซึ่งเป็นหลักการที่ประเทศไทยก็เป็นเมืองที่นับถือศาสนาพุทธ อยู่ด้วยกันแบบเป็นมิตรมาโดยตลอด และ 4 ปีที่ผ่านมา พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องฟัง พล.อ.เปรมให้มาก เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์เป็นคนที่พูดว่าเข้ามามีอำนาจเพื่อสร้างความปรองดอง 

แต่ 4 ปีที่ผ่านมา คสช.ที่อ้างว่าเข้ามาเพื่อสร้างความปรองดองได้ทำอะไรที่ตั้งใจจะเกิดความปรองดองบ้าง ทั้งการทำรายงานศึกษาความปรองดองจากผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย สุดท้ายก็โยนทิ้ง ซึ่งเป็นแค่วลี วันนี้ยังไม่สายที่ พล.อ.ประยุทธ์จะทำตามที่ พล.อ.เปรมระบุ ส่วนพรรคการเมืองถ้าเคารพหลักเกณฑ์ก็เคารพผลการเลือกตั้ง ตนเองอยู่มา26 ปีในการเมือง การมีความเห็นต่างก็อยู่ได้ มีเพียงช่วงหลังที่มีความพยายามสร้างเหตุการณ์สู่รัฐประหาร

ส่วนกรณีที่มีป้ายของว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เชียงราย พรรคพลังประชารัฐ ระบุสนับสนุนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐนั้น ก็มีการพูดไปทั่ว ให้ถามประชาชนดูว่าถ้าเลือกพรรคนี้จะได้บัตรคนจน เบี้ยผู้สูงอายุ แต่ข้อเท็จจริงในพื้นที่มีมากกว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จะดำเนินการเอาผิด ก็ช่วยไปเตือนพรรคพลังประชารัฐด้วย

เมื่อถามถึงการลงพื้นที่ 2 วันที่ภาคอีสาน มีหลายคนบอกจะชูคุณหญิงสุดารัตน์ เป็นนายกฯ หญิงคนที่ 2 แต่คุณหญิงสุดารัตน์ ย้ำว่า ใจเย็นๆ สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเป็นภาระคือความเจ็บปวดที่จะต้องทำงานให้สำเร็จ โดยแก้ไขความทุกข์ยากให้กับประชาชน 4 ปีที่ผ่านมาจากการลงพื้นที่ ไม่มีประชาชนบอกว่าเศรษฐกิจดีขึ้น ทำให้ 4-5 ปีทุกข์มาก ดังนั้นพรรคการเมืองต้องแก้ไขความทุกข์นี้ให้ประชาชน ส่วนพรรคเพื่อไทยจะชูใครจะเป็นนายกฯ ก็เชื่อว่าจะถูกพรรคหล่อหลอมให้ทำงานสำเร็จ และสนับสนุนคนในพรรคเพื่อไทยทุกคนให้เป็นนายกฯ ได้