เมื่อเวลา 11.20 น. ที่ทำเนียบ วันที่ 8 ธ.ค. 2566 นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี เข้าดำรงตำแหน่งองคมนตรี พรรครวมไทยสร้างชาติจะรักษาฐานเสียงของ พล.อ.ประยุทธ์ไว้อย่างไร ว่า ที่ผ่านมาตอนเริ่มตั้งพรรคไม่ได้มีท่านอยู่ และท่านได้ลาออกจากสมาชิกพรรคไปแล้ว พรรคก็เดินหน้าตามปกติ ทุกคนก็ทำงานทางการเมือง ตนในฐานะหัวหน้าพรรคก็จะทำหน้าที่ให้ดีทั้งดูแลพรรคและประชาชน ในฐานะที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาล

เมื่อถามว่า ในการเลือกตั้งครั้งหน้าพรรคจะมีจุดขายหรือเปลี่ยนจุดขายหรือไม่ นายพีระพันธุ์กล่าวว่า “ไม่หรอกครับ จุดขายของเราเป็นพรรคที่ยึดมั่นในชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ นี่คือจุดขายหลัก”

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวว่า เฉลิมชัย ศรีอ่อน รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มีโอกาสได้เป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ อาจทำให้สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน ไหลมาพรรครวมไทยสร้างชาติ จะให้การต้อนรับหรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวว่า ไม่ทราบ ไม่มีความเห็น อะไรที่ยังไม่เกิดขอไม่พูด

มีความเป็นไปได้ ปรับค่าไฟเป็น 4.10 บาท

พีระพันธุ์ กล่าวถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนภายหลัง คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) มีมติปรับขึ้นค่าไฟฟ้างวด ม.ค.-เม.ย. 2567 เป็น 4.68 บาทต่อหน่วยว่า กกพ.ก็ทำหน้าที่ปกติของเขาไป แต่ทั้งหมดอยู่ที่รัฐบาลและกระทรวงพลังงาน ตอนนี้เรากำลังทำงานอยู่ เอาเป็นว่าค่าไฟฟ้าไม่ขึ้นไปสูงขนาดนั้น แต่ปัจจัยสำคัญคือค่าแก๊สในตลาดโลกตอนนี้ขึ้นสูง เนื่องจากเป็นช่วงหน้าหนาวทำให้มีความต้องการเพิ่มขึ้น จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ต้องมีการปรับราคา ซึ่งความจริงไม่มีใครอยากปรับ แต่ต้องพิจารณาดูว่า การปรับนั้นทุกคนต้องอยู่ได้ เราพยายามปรับให้น้อยที่สุด สำหรับกลุ่มเปราะบางหรือกลุ่มที่ใช้ไฟฟ้าน้อยที่ไม่เกิน 300 หน่วยก็จะได้ราคาเดิม

เมื่อถามว่า ได้มีการพูดคุยกับทาง กกพ.แล้วหรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวว่า ได้มีการพูดคุยกันไว้เบื้องต้นแล้ว

เมื่อถามว่า จะนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)เพื่อพิจารณาในวันที่ 12 ธ.ค.นี้หรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ เพราะตนไม่อยากนำเข้าทีละเรื่อง แต่จะเข้า ครม.ทีเดียวหลายเรื่องเลย และต้องเข้าครม.ก่อนครบกำหนดเวลา

เมื่อถามว่า นายกรัฐมนตรีอยากให้ลดลงเหลือ 4.10 บาทต่อหน่วยเป็นไปได้หรือไม่ พีระพันธุ์ กล่าวว่า ก็มีความเป็นไปได้ แต่การปรับลดค่าไฟฟ้า ไม่ใช่บอกว่าจะลดเท่านั้นเท่านี้ เพราะจะมีปัจจัยและมีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้องจำนวนมาก ซึ่งการปรับลดค่าไฟไม่ได้อยู่ที่หน่วยงานเดียวหรือปัจจัยเดียว แต่อย่างน้อยเราได้พยามวางเป้าหมายเพื่อให้ไปถึงเป้าหมายที่เราวางไว้ ซึ่งการที่จะไปถึงเป้าหมายนั้น อาจจะต้องไปปรับลดหรือปรับเปลี่ยนอะไรหลายอย่าง ก็จะพยามทำให้ได้หรือให้ใกล้เคียงที่สุด