วันที่ 9 ม.ค. สามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวผ่านรายการสามารถ 5 นาที ช่องทางเฟซบุ๊กสามารถ เจนชัยจิตรวนิช และช่องทาง TikTok: jopstoploss ว่า ผลสำรวจของบางสำนักรวมถึงสำนักข่าวบางสำนักบอกว่า เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง จะดำรงตำแหน่งยาวเกินหนึ่ง แต่พี่น้องประชาชนหลายคนบอกว่า พอนายกฯ บอกว่าจะนอนที่ทำเนียบรัฐบาล ถนนในประเทศก็ทรุดไปหลายแห่งจนหลายคนเขาว่า หนักแผ่นดิน ตนไม่กล้าพูดคำนี้ เพราะมันน่าจะรุนแรงเกินไปสำหรับนายกฯ แต่นายกฯควรจะทบทวนว่า สิ่งที่ท่านทำอยู่ ประชาชนเป็นสุขหรือไม่
สามารถ ระบุอีกว่า จากผลสำรวจพบว่า ประชาชนมีความสุข 39.16% และมีคนไม่อยากให้นายกฯอยู่ยาวถึง 60.84% ซึ่งถ้านายกฯ ลาออกชาวบ้านดีใจแน่นอน เพราะคนถึง 60.84 ซึ่งมันเกินครึ่ง เขาไม่เชื่อมั่นว่านายกฯจะอยู่ยาว หรือไม่อยากให้นายกอยู่ ส่วนด้านเศรษฐกิจ ประชาชนเชื่อว่าเศรษฐกิจจะดีขึ้น 35.65% ซึ่งยังไม่ถึงครึ่งของประเทศที่เชื่อมั่นว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ เศรษฐา ทวีสิน จะทำให้เศรษฐกิจของประเทศดีขึ้น
สาเหตุมาจาก นายกฯ พูดอย่างทำอย่าง ตามฉายาที่ว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนพูดอย่างทำอย่าง บอกจะทำงานรู้จักเหน็ดเหนื่อย เดี๋ยวก็ลาเดี๋ยวก็นอน นี่ชาวบ้านเขาพูดกันไปแบบนี้ ถ้านายกฯลาออกประชาชนเป็นสุขเลย 60.84% ถ้าท่านลาออกให้สภาฯเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ อย่างน้อยก็มีความหวังว่า เศรษฐกิจจะดีขึ้นถึง 64.5% เรื่องนี้ผมฝากให้นายกฯทบทวนด้วย
สามารถ กล่าวต่อว่า เรื่องร่างพระราชบัญญัติกู้เงิน เพื่อมาใช้ในโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 5.6 แสนล้าน คณะกรรมการกฤษฎีกาได้ส่งความเห็นมายังรัฐบาลว่า จะต้องทำตามเงื่อนไขก่อน อย่างที่บอกว่า พรบ.งบประมาณปี 67 มันไม่มีเรื่องเงินดิจิทัลอยู่ในนั้น ถ้ามันไม่มีเงินอยู่ในนั้นก็ต้องทำตามมาตรา 53 มาตรา 57 โดยในมาตรา 53 ระบุไว้ว่า การกู้เงินของรัฐบาลนอกเหนือจากที่บัญญัติไว้ในกฎหมายว่าด้วยการบริหารหนี้สาธารณะให้กระทรวงการคลังกระทำได้โดยอาศัยอำนาจตามกฏหมายที่ตราขึ้นเป็นการเฉพาะ
โดยเฉพาะกรณีที่มีมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนและอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศโดยไม่อาจตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีได้ทัน แต่ท่านรู้อยู่แล้ว ก่อนที่จะมีงบประมาณเข้าสู่สภาฯ แต่ท่านไม่เอาเข้า ฉะนั้นมันขัดกับมาตรา 53 หรือไม่
ในส่วนมาตรา 57 ระบุไว้ว่า การกู้เงินตามมาตรา 53 และมาตรา 56 จะกระทำได้แค่เฉพาะเพื่อใช้จ่ายตามแผนงานหรือโครงการที่มีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจหรือสังคม และเมื่อหน่วยงานของรัฐ ซึ่งเป็นเจ้าของแผนงานหรือโครงการมีความพร้อมที่จะดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการที่จะจ่ายเงินเงินกู้นั้นแล้ว ซึ่งตนมั่นใจว่า การที่เราไม่ได้เอาเรื่องเงินดิจิทัลใส่ใน พรบ.งบประมาณ แล้วจะมาขอกู้ ซึ่งวันที่การฟังอภิปรายงบประมาณ ปี 67 รัฐบาลก็พยายามจะพูดว่า เศรษฐกิจดี
ฉะนั้นมันจะวิกฤตได้อย่างไร คำว่าวิกฤตนั้นมันต้องเจอวิกฤตโรคระบาด วิกฤตอุทกภัย วิกฤตวาตภัย วิกฤติ อะไรที่มันเกิดวิกฤติขึ้นกับประเทศ แต่ ณ เวลานี้เศรษฐกิจของประเทศมันวิกฤต เพราะตัวผู้นำ ฉะนั้นถ้ามันวิกฤตเพราะตัวผู้นำ เปลี่ยนผู้นำง่ายกว่า นั่นคือสิ่งที่ผมบอกว่า เงินดิจิทัลออกก็โดน ไม่ออกก็โดน ผมจึงเชื่อมั่นว่าคุณเศรษฐาไม่น่าอยู่ถึงเดือนเมษายน 67 นี้