วันนี้ (26 พฤษภาคม 2568) พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เดินทางมา ห้องสัมมนากรมราชทัณฑ์ ชั้น 3 กรมราชทัณฑ์ กระทรวงยุติธรรม จังหวัดนนทบุรี พร้อมบุตรชาย “วิว-ณัฐวัฒน์ สอดส่อง” เพื่อร่วมงานประชุมรับมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารงานกรมราชทัณฑ์ โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ พร้อมด้วยผู้บริหารกรมราชทัณฑ์ ผู้บัญชาการเรือนจำ ผู้อำนวยการทัณฑสถานทั่วประเทศ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ก่อนเริ่มการประชุม นายณัฐวัฒน์ สอดส่อง ได้ส่งมอบชุดหนังสือฝึกแต่งประโยคภาษาอังกฤษระดับเบื้องต้น ให้แก่เรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศ โดยมี นายสหการณ์ เพ็ชรนรินทร์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เป็นผู้รับมอบด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ยังได้กล่าวมอบนโยบายการปฏิบัติงานแก่ผู้บริหารงานกรมราชทัณฑ์ โดยระบุใจความตอนหนึ่งว่า 'ราชทัณฑ์อาจจะต้องมีบทบาทใหม่ คือเป็นหน่วยงานที่เป็นหน่วยงานสร้างความปลอดภัยให้กับประชาชน สร้างความมั่นคงให้กับประเทศ สร้างคนให้กับประเทศ และอยากให้ ผู้บัญชาการเรือนจำและทัณฑสถานทั่วประเทศร่วมเป็นนักยุทธศาสตร์ เพื่อแก้ปัญหาความมั่นคงของประเทศ ซึ่งหนึ่งในนั่น คือ ปัญหายาเสพติด'

'ยาเสพติดเป็นภัยคุกคามต่อความมั่นคงของประเทศ ซึ่งทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ไขอย่างเร่งด่วน ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม ชุมชน และประชาชนในระดับพื้นที่' - พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าว 

นอกจากนี้ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวย้ำว่า การที่จะให้ผู้ต้องราชทัณฑ์ออกจากเรือนจำได้จะต้องดำเนินการ 3 ประการ คือ 1. ทำให้มีอาชีพ 2. ทำให้มีการศึกษา และ 3. ทำให้สังคมยอมรับ และยังได้กล่าวถึงนโยบายการแยกเรือนจำศูนย์ระหว่างพิจารณาคดี เพื่อเป็นศูนย์แยกการควบคุมผู้ต้องขังระหว่างพิจารณาคดี และผู้ต้องขังเด็ดขาด โดยสนับสนุนให้เปลี่ยนราชทัณฑ์เป็นพื้นที่สร้างความปลอดภัย และความมั่นคงให้กับประเทศด้วย 

สำหรับการประชุมในวันนี้ จัดขึ้นเพื่อเป็นเวทีให้ผู้บัญชาการเรือนจำ/ผู้อำนวยการทัณฑสถานทั่วประเทศ ร่วมแลกเปลี่ยนความเห็น เสริมสร้างภาวะผู้นำและวิสัยทัศน์ในการบริหารงานเรือนจำให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม มีความรู้ความเข้าใจแนวทางการบริหารจัดการที่ก้าวหน้า และสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการบริหารงานเรือนจำได้ สามารถวิเคราะห์ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงและรับมือกับความท้าทายการบริหารงานเรือนจำในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป