เมื่อเวลา 20.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 2566 ดร.ทักษิณ ชินวัตร หรือ โทนี่ วู้ดซัม (Tony Woodsome) อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุผ่านรายการ CareTalk x Care ClubHouse ในหัวข้อ ‘เติมเงินครั้งใหญ่ คนไทยไร้จน! ไม่จกตาแน่นะวิ?’ โดยในช่วงต้น โทนี่ มองถึงนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยว่า แม้จะดูหวือหวา แต่เท่าที่มองเห็นว่ายังรักษาวินัยการคลังไว้อยู่ คือดูแลค่าใช้จ่ายและรายได้ไปคู่กัน หากขาดวินัยการคลัง เสถียรภาพค่าเงินบาทจะย่ำแย่ลง พร้อมให้ความเห็นว่านโยบาย Digital Wallet ของเพื่อไทยมีความทันสมัย เริ่มมีการนำมาใช้ในต่างประเทศ มีความปลอดภัยจากโจรกรรม

ส่วนคุณสมบัติของ"กระเป๋าเงินดิจิทัล" (Digital Wallet) ของพรรคเพื่อไทยคือให้ใช้จ่ายได้ในรัศมี 4 กิโลเมตรจากบ้าน ซึ่งเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจจากฐานราก ให้เงินหมุนเวียนอยู่ในท้องถิ่น เป็นแนวคิดรดน้ำที่ราก ให้ยั่งยืนตั้งแต่ฐานถึงยอดไม้ โดยผสานเข้ากับเทคโนโลยี

จากนั้น โทนี่ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองหลังยุบสภาฯ และประกาศวันเลือกตั้ง แม้สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จะแบ่งเขตเลือกตั้งได้เละเทะมาก โดยเฉพาะใน กทม. เขตเลือกตั้งหนึ่งมีถึง 5-6 แขวงจากหลายเขต เป็นการแบ่งที่ศรีธนญชัยอาย แต่ก็ขอให้ทนๆ กันไป วันที่ 14 พ.ค. 2566 ก็ได้กาบัตรกันแล้ว

“ผมยังอยากให้บริษัทที่ขายพวกเครื่องปั่นไฟ ไปผลิตไฟที่ กกต. เดี๋ยวไฟดับเครื่องคิดเลขใช้ไม่ได้เหมือนคราวที่แล้ว ... หวังว่าถ้าคราวหน้าฝ่ายประชาธิปไตยชนะแล้ว ก็คงได้ล้างสิ่งที่เผด็จการชอบเอาเปรียบ จริงๆ นะ เป็นทหารมียศ เป็นเรื่องเป็นราว พอเข้าการเมืองแล้วนิสัยชอบเอาเปรียบ” โทนี กล่าว

เติม 2 หมื่นครัวเรือน-กระเป๋าดิจิทัล รดน้ำที่ราก

โทนี มองนโยบายเศรษฐกิจของเพื่อไทย ว่าอยู่ภายใต้แนวคิดที่ภาครัฐกับภาคเอกชนพึ่งพากัน เป็นการคิดในองค์รวม คือทั้งพัฒนาคน สร้างงาน และเพิ่มรายได้ แต่ขณะเดียวกันก็ไม่อยากให้ประชาชนอยู่อย่างยากลำบาก ไร้ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ในช่วงแรกจึงต้องอุดหนุน 20,000 บาทต่อครัวเรือน ควบคู่ไป

“เพื่อไทยมา เราเริ่มต้นรักษาสภาพของคนไทยให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมกับสร้างรายได้ควบคู่กันไป แล้วพอรายได้ทุกครอบครัวเกิน 20,000 บาทต่อเดือน ก็ไม่ต้องอุดหนุนต่อ ถ้าเขาอยากอุดหนุนน้อย เขาต้องเร่งเครื่องให้คนไทยมีรายได้ให้มากโดยเร็วที่สุด”

ส่วนนโยบาย Digital Wallet หรือกระเป๋าเงินดิจิทัล ต่อยอดจาก Blockchain ที่เปรียบเหมือนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตด้านการเงินการออม มีลักษณะเป็น Smart Contract คือกำหนดาระยะเวลาในการใช้ ไปจนถึงระยะทางที่ใช้ได้ เช่น ต้องใช้ภายใน 4 เดือน ภายในรัศมี 4 กิโลเมตร ถ้าทำผิด Smart Contract ก็ไม่สามารถใช้เงินได้

โทนี่ เน้นย้ำว่า การส่งเสริมให้กระตุ้นเศรษฐกิจภายในท้องถิ่นตั้งแต่ฐานรากนั้น เพื่อไม่ต้องให้นำเงินไปใช้ในเมือง แต่ให้เงินหมุนเวียนในพื้นที่ พร้อมมองว่าปี 2567 รับรองได้ว่า GDP จะโตได้ถึง 7% หากดำเนินการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยวิธีนี้ เหตุที่ GDP ของประเทศไม่โต เพราะคนฐานรากถ่วงไว้ และถูกบีบด้วยระบบ พรรคเพื่อไทยจึงพยายามอุ้มคนข้างล่าง เพื่อให้คนชั้นกลางและชั้นบนสูงขึ้นได้

เมื่อถามถึงกรณี ดิจิทัลวอลเล็ต เสนอนโยบายให้เงินคนท้องถิ่นใช้ในรัศมี 4 กิโลเมตรจะช่วยอะไรต่อสังคมไทยและต่างยังไงกับแอปเป๋าตัง ที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เคยให้ประชาชนได้ใช้ โทนี่ระบุว่า วันนี้ต้องยอมรับเครื่องยนต์เศรษฐกิจไม่ตาย ก็ต้องจุดอย่างแรง เท่าที่ฟังหลักการ เศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ปราศรัย สรุปเครื่องยนต์แย่มาก แต่ความหวังประชาชนฝากไว้กับพรรคเพื่อไทย ต้องรีบจุุดให้เครื่องยนต์มันเดินเต็มที่ ส่วนค่าแรง 600 บาท แทนที่จะรอปี 2570 ก็อาจจะเร็วขึ้นถ้าติดเครื่องยนต์ได้เร็ว เร่งจุดคือกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยกระตุ้นพื้นที่ ณ จุดนั้นๆ ไม่ใช่มารอกระตุ้นในเมือง เขาถึงมีเทคโนโลยี 4กิโลเมตรไว้ แล้วคุมถ้าได้เงินไปแล้วต้องใช้ใน 6 เดือน ถ้าเศรษฐกิจหมุนเวียน 7 รอบก็ได้ 49% คืนมา

โทนี่ระบุว่า ต่างจากแอปเป๋าตัง คนละมิติ ชื่อบอกเป๋าตัง สู้ดิจิทัลวอลเล็ตไม่ได้ ชื่อมันเชยกว่ากันเยอะ

เกณฑ์ทหารสมัครใจ พัฒนาคุณภาพคน

เมื่อกล่าวถึงนโยบายเพิ่มศักยภาพให้พาสปอร์ตไทย โทนี ระบุว่า ประเทศไทยเป็นประเทศขนาดกลางค่อนข้างใหญ่ แต่พาสปอร์ตเราอยู่รั้งท้ายสู้ต่างชาติไม่ได้ ต้องทำวีซาเยอะ เพราะไม่ได้เจรจา รีบจะเปิดประเทศให้มาท่องเที่ยว กลัวการเจรจาขอวีซาจะทำให้การท่องเที่ยวสะดุด ซึ่งตนเห็นว่านโยบายที่เพื่อไทยเตรียมไว้แต่ยังไม่ประกาศ ถือว่าดีมาก

โทนี ยังมองถึงหลักการที่ใช้สมัยพรรคไทยรักไทยคือ ‘เพิ่มรายได้ ลดรายจ่าย ขยายโอกาส’ คือหากรัฐช่วยรายจ่ายบางอย่างได้ต้องช่วยเพื่อให้ประชาชนอยู่ได้ ควบคู่กับการสอนให้แต่ละครัวเรือนทำบัญชีรายรับรายจ่ายอย่างง่ายเพื่อควบคุมไม่ให้ขาดทุน ส่วนพรรคเพื่อไทยส่งเสริมแนวคิดนี้ด้วยเทคโนโลยี ให้เข้าถึงประชาชนได้กว้างขวาง และง่ายขึ้น เช่น การรักษาระยะไกล

ขณะที่นโยบายยกเลิกบังคับเกณฑ์ทหาร ให้เป็นระบบสมัครใจ โทนี่ ชี้ว่า หลายประเทศที่พัฒนาแล้ว มีผู้อยากไปเกณฑ์ทหาร เพราะเห็นแล้วว่าการเป็นทหารจะได้รับการฝึกทักษะต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ แต่ทหารเกณฑ์ไทยเป็นการฝีกความอดทน จากนั้นไปเป็นทหารรับใช้ เป็นประโยชน์ต่อทหารผู้ใหญ่ แต่ไม่เป็นประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม

"ถ้าเป็นทหารอาสา กองทัพจะแข่งกันดึงดูด มีโปรแกรมฝึกฝนแบบต่างๆ จบมายังได้อาชีพ มีรายได้ดีขึ้น แต่ทุกวันนี้ไม่ต้องแข่ง เกณฑ์มาจับฉลาก ไปถึงก็ไปรับใช้ ตัดหญ้า ซักผ้า คือศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พอเป็นทหารเกณฑ์จะไม่มีเลย ไม่ได้บอกว่าจะไม่ให้มีพลทหาร แต่แข่งกันเอาคนไปปรับปรุงคุณภาพดีกว่าเอาคนไปกดความเป็นมนุษย์ลงไป”

“ถ้าจะให้เสียเวลาชีวิตเขาเป็นปีๆ เวลาที่เสียไปต้องให้เกิดคุณค่า คนไปบวชเรียนก็เหมือนกัน อย่างน้อยต้องได้ธรรมะของพระพุทธเจ้า ไม่อย่างนั้นออกมาแล้วไม่ได้อะไร หมดแก่นสารชีวิต คนติดคุกก็เหมือนกัน ต้องมีการฝึกอาชีพ ไม่ใช่ว่าอยู่ๆ ให้เขาไปลำบาก มนุษย์นี่ไม่ว่าเขาทำผิดอะไรไป ต้องมีการปรับปรุงเขาอยู่ทุกระดับ หน่วยงานที่เอาเขาไปเก็บไว้ต้องปรับปรุงเขา ถึงจะได้มีความรู้สึกว่า เราสร้างประโยชน์ให้เพื่อนร่วมชาติ เพื่อนมนุษย์เรา”

มอง ‘แพทองธาร’ เป็นนายกฯ เก่งกว่า

ในช่วงถามตอบ เมื่อผู้ร่วมรายการถามว่า ขณะนี้ลูกสาวคนเล็กของ โทนี่ คือ แพทองธาร ชินวัตร มีตำแหน่งหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ในฐานะคนเป็นพ่อมีความเป็นห่วงอะไรลูกสาวบ้าง และมีข้อแนะนำอย่างไร โดย โทนี่ กล่าวว่า แพทองธาร เห็นตนกับการเมืองตั้งแต่อายุ 8 ขวบ ไปหาเสียงก็ไปด้วย จึงเห็นมาตลอด หาข้อมูลได้เร็ว มีวิจารณญาณมากพอจะรู้อะไรเป็นอะไร แล้วเข้าใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับตนได้หมด เรื่องเบื้องลึกเบื้องหลังที่ตนพูดในสาธารณะไม่ได้ ตนบอก แพทองธาร ทั้งหมด จึงได้บทเรียน เพราะพูดคุยกันตลอด สิ่งที่เป็นห่วงคือเรื่องสุขภาพเพราะอายุครรภ์มาก ไม่ควรเดินทางไกล นั่งรถไม่ควรเกินชั่วโมงกว่า

“ดีว่าเขาเลือกตั้งวันที่ 14 พ.ค. คลอดก่อนหลายวันอยู่ ผมยังแกล้งพูดเล่นกับเขา เขาบอกว่า ยุบแล้ว ผมเลยบอกว่า ก็อีกเดือนครึ่งน่ะลูกถึงจะยุบ สภายุบแล้ว อีกเดือนครึ่งท้องถึงยุบ” โทนี่ กล่าว

เมื่อถามถึงยุทธศาสตร์นโยบายของพรรคเพื่อไทย ที่ใกล้เคียงกับสมัย ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีข้อแนะนำพรรคเพื่อไทยไม่ให้ทำพลาดซ้ำรอยรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ เมื่อปี 2554 และไปต่อได้ยาวๆ โทนี ชี้ว่า ยิ่งลักษณ์ กับตน สายเลือดใกล้เคียงกัน ส่วน แพทองธาร ต่างกับ ยิ่งลักษณ์ เพราะมีสายเลือดของแม่และของตน อีกทั้ง แพทองธาร ด้วยความเป็นคนรุ่นใหม่ โผงผาง ตรงไปตรงมา และโกหกไม่เป็นจะทำให้ต่างกัน

ส่วนแนวนโยบายที่จะใช้ต่อเนื่องกันตอน สมัยยิ่งลักษณ์ ใช้ ‘ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ’ แต่วันนี้นี้คือ ‘ดีเอ็นเอทักษิณคิด ดีเอ็นเอทักษิณไปทำ และเพื่อไทยก็ไปทำ’เพราะไปกับตนมาตลอด ได้เรียนรู้มาจากตนตลอด และอาจจะทำได้ดีกว่าตนด้วยซ้ำ "ผมคิดว่าเขา (แพทองธาร) เก่งกว่าผม"

แนะถ้า 'เพื่อไทย' ดันเศรษฐกิจมาก่อนทุกเรื่อง ยังไม่สน ม.112

ถามต่อไปว่า หากเพื่อไทยชนะเป็นรัฐบาลได้ มองว่าข้อเสนอใดของคนรุ่นใหม่ที่ควรผลักดันทำก่อน หรือควรผลักดันเรื่องอื่นที่เร่งด่วนกว่า โทนี่ ตอบว่า ถ้าเศรษฐกิจดี ชีวิตจะง่ายขึ้นมาก เพราะจะมองเห็นอนาคต เรื่องอื่นจึงมาทีหลัง แต่ถ้าเศรษฐกิจไม่ดี ไม่เห็นอนาคต ก็จะมีโทษสารพัด

โทนี่ ยกตัวอย่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แบ่งเป็น 7 แคว้น แต่ละแคว้นมีผู้ปกครองของตนเอง ไม่มีเลือกตั้งเลย เจ้าผู้ครองแคว้นเป็นผู้จัดการหมดทุกอย่าง ก็ไม่มีใครเรียกร้องอะไรเลย เพราะเศรษฐกิจดี มีโอกาสในการทำธุรกิจเท่าเทียมกัน ทุกอย่างเปิดเผย มีเทคโนโลยีชั้นนำ เพราะผู้นำเอาใจใส่

“ถ้าผู้นำของเรา ในที่นี้คือนายกรัฐมนตรี เอาใจใส่ และเป็นทุกข์แทนประชาชนในทุกแง่มุม ผมคิดว่าสิ่งเหล่านี้จะเกิดความเรียบร้อย ไม่ใช่ความสงบจบที่ลุงตู่ สงบแบบนั้นคือทำอะไรไม่ได้เลยสักอย่าง ไม่ได้เรื่องอะไร สงบในที่นี้คือ ไม่มีผู้มีอำนาจมากกว่ารังแกผู้น้อย ผมคิดว่าเรื่องอื่นเป็นรองหมด”

“พรรคเพื่อไทยจึงต้องนำเรื่องนี้มาเป็นหลัก เรื่อง มาตรา 112 ไม่ต้องไปสนใจหรอก ไปสนใจกระบวนการที่ทำให้เกิดความยุติธรรมของคนโดนกล่าวหาดีกว่า ผมคิดว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด บางคนก็ไปคิดโน่นคิดนี่ ผมคิดว่าเรื่องมาต้นๆ คือ ปัญหา 8 ปีผ่านมา รัฐบาลมานั่งเป็นนักธุรการให้ครบ 8 ปี จึงไม่ได้บริหาร ไม่มียุทธศาสตร์ในการแก้ปัญหา ปัญหามาทิ่มลูกตาเมื่อไหร่ก็ปัดออก ไม่ได้แก้”

โทนี่ ยังทิ้งท้ายว่า ถ้าวันนี้จะให้คนรุ่นใหม่ไม่ต้องสนใจเรื่องอื่น คือต้องทำเศรษฐกิจให้ดี จะสนใจแต่โอกาสในชีวิตและเกิดความพอใจ ถูกต้องแล้วที่คนจะเลือกเพื่อไทย เพราะกระแสวันนี้คล้ายและต่างจากสมัยที่ตนได้ 370 เสียง เพราะกระแสตอนนั้นอยากให้ตนอยู่ต่อ แต่กระแสตอนนี้คือคนอยากให้รัฐบาลนี้ไปเสียที ตนจึงไม่แปลกใจหากครั้งนี้เพื่อไทยจะได้ 300 เสียง

แง้มเปิดครบ 3 ชื่อแคนดิเดต 5 เม.ย. ย้ำครอบงำ 'อิ๊งค์' ไม่ได้

หากพรรคเพื่อไทยชนะการเลือกตั้ง ในฐานะพ่อของ แพทองธาร เห็นว่าควรให้ แพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรีหรือไม่ โทนี่ ตอบว่า หากถามตนว่า แพทองธาร เป็นนายกฯ ได้ไหม มองว่าเป็นได้ดีทีเดียว แต่ในเมื่อบรรลุนิติภาวะแล้ว ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ แพทองธาร เอง ว่าจะเป็นหรือไม่เป็น

“ผมครอบครองได้ในฐานะเป็นพ่อ แต่ครอบงำเขาไม่ได้ เพราะเขาโตแล้ว เขาคิดเองได้ มีครอบครัว มีลูก ดังนั้นแล้วแต่เขาครับ ผมไม่ไปชี้นำ เพียงแค่เขาทุ่มเททำงานกับพรรคมาขนาดนี้ ผมคิดว่า พรรคก็ซาบซึ้งมาก ผมเองในฐานะก่อตั้งไทยรักไทยมา ผมก็ซาบซึ้งมาก ขนาดท้องแก่ก็ยังขยันหมั่นเพียร ผมต้องยอมรับว่า บุคลิกบางอย่างผมไม่มี เพราะเขาได้ดีเอ็นเอแม่มามากกว่าผมด้วย เขาทำได้ดีกว่าผม”

แพทองธาร พร้อมให้ความร่วมมือกับพรรคทุกอย่าง คิดว่าอนาคตจะเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ โทนี่ ตอบว่า เป็นได้ แต่แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคมี 3 คน ซึ่งจะเปิดตัวในวันที่ 5 เม.ย. เพราะต้องเปิดตัวแคนดิเดตฯ ภายในวันที่ 7 เม.ย. ตามประกาศของ กกต.

ต่อคำถามว่า แล้ว เศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย เหมาะจะเป็นนายกฯ หรือไม่ โทนี่ ระบุว่า เศรษฐา ทุกคนมองว่าเขาเหมือนตนตอนเข้าสู่การเมืองใหม่ มีสไตล์นักธุรกิจ มีเป้าหมายชัดเจน และตรงเป็นขวานผ่าซาก แบบเดียวกับเมื่อตนเข้าพรรคพลังธรรม แล้วภายหลังเริ่มเบาลง

“เอาอย่างนี้ดีกว่า ผมว่าแคนดิเดตของเพื่อไทยทั้ง 3 คน ใครเป็นก็ได้ เพราะ แพทองธาร เล่าให้ผมฟังว่า เขามีกติกา ใครเป็นอีก 2 คนต้องช่วย และอีก 2 คน บุคลิกคนละแบบเลย ความชำนาญคนละแบบหมด อย่างอุ๊งอิ๊งค์ จะชำนาญเรื่องการเมือง รากหญ้า เพราะเขาอยู่กับผมมานาน พบปะประชาชนกับผมมาตั้งแต่เด็ก มีความเห็นอกเห็นใจสูง และเรื่องแนวคนรุ่นใหม่ เทคโนโลยี”

“คุณเศรษฐา เก่งเรื่องธุรกิจ เรื่องการหารายได้ ส่วนอีกคนเขายังไม่บอกว่าเป็นใคร ก็เขาบอกจะเลือกคนละบุคลิก ก็จะไม่ใช่นักธุรกิจแบบคุณเศรษฐา ถึงเวลาทำงาน ไม่ว่าใครเป็น อีก 2 คนเขาจะช่วยคิด ช่วยให้แนวทาง ก็เลยไม่รู้ว่าใครจะเป็น”

เมื่อถามความเห็นรุ่นพี่นายกฯ มองว่าระหว่าง แพทองธาร กับ เศรษฐา ใครเป็นตัวจริง โทนี ตอบว่า ปกติแล้วทุกคนจะแย่งกัน แต่คราวนี้ต่างคนต่างจะเสียสละให้กันและกัน ต่างคนมองว่าใครก็ได้ เพราะจะช่วยกัน พร้อมกล่าวติดตลกว่า คงต้องให้พรรคเพื่อไทยจับสลาก แต่ตนมองว่า อยู่ที่ใครทำประโยชน์ให้บ้านเมืองช่วงนี้มากกว่า

โดย โทนี่ ยังระบุว่า คุณสมบัติของคนที่ควรมาเป็นนายกฯ คือ 1) ต้องรักประชาชน มองทุกข์ประชาชนมาเป็นตัวตั้งในการแก้ปัญหา 2) ต้องรู้เท่าทันโลกและเทคโนโลยี เพราะเราไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้ และ 3) ต้องเข้าใจเศรษฐกิจ เพราะเป็นแกนที่จะทำให้ทุกคนมีความสุข

เมื่อถามว่ามีอะไรแนะนำถึง พล.อ.ประยุทธ์ ซึ่งเตรียมตัวลงเลือกตั้งหรือไม่ งานเลี้ยงย่อมมีวันเลิกรา กลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายให้มีความสุข รักษาสุขภาพให้ดีดีกว่า ไม่ใช่ว่าท่านไม่ดี แต่ท่านมีความคิดที่ตกยุค วิธีคิด วิธีการทำงานนำพาประเทศต่อไปยาก คิดว่าไปใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว และรักษาสุขภาพให้ดีดีกว่า เป็นเรื่องสำคัญที่สุด

ต่อคำถามถึงยุทธศาสตร์ ‘ไม่ขายพ่วง’ ของพรรคเพื่อไทย ในฐานะนักวิเคราะห์การเมือง เห็นด้วยหรือไม่ โทนี่ ตอบว่า สรุปแล้ว เพื่อไทยไม่มีสาขา และไม่ได้คุยกับใคร ไม่ได้จับมือกับใครล่วงหน้า ใช้หลักช่วยตัวเองก่อน Help yourself before God can helps you จึงคิดว่าเพื่อไทยขายเดี่ยว ไม่ขายพ่วง

“วันนี้ผมงงมากเลยนะ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ก็ออกมาโจมตีพรรคเพื่อไทย เฮ้ย ผมงงเว้ย ที่คนบอกก้าวไกลเหมือนประชาธิปัตย์ ชักจะเหมือนขึ้นทุกวันแล้วนะ” โทนี่ กล่าว

โทนี่ ระบุถึงบทบาทของผู้นำเหล่าทัพในช่วงนี้ ว่า ปกติเวลา ผบ.ทบ.ออกมาพูดเหล่าทัพวางตัวเป็นกลาง ตนไม่ค่อยเชื่อ ในอดีตไม่ค่อยเชื่อ แต่เที่ยวนี้ พล.อ.ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผบ.ทบ.ออกมาพูด ดูน้ำเสียงและสายตามีความจริงใจสูง 

แนะ 'ประวิตร' วางมือ

ถามว่า โทนี่บอกว่ารัฐบาลชิงตัดหน้าตั้งรัฐบาลก่อน มีการพูดในการเมือง พรรคเพื่อไทยจะจับมือพรรคพลังประชารัฐ ฝ่าด่าน 250 ส.ว.ดัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เป็นนายกฯ ป้องกันรัฐประหาร เป็นไปได้หรือไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐ โทนี่ระบุว่า ตนไม่ได้คุย แต่น่าจะยาก เพราะ พล.อ.ประวิตร เป็นนายกฯ ขึ้น นายกฯลง ยกขึ้นและยกลงเวที พล.อ.ประวิตร ต้องพักผ่อน แต่พรรคพวกอยากเกาะเพื่อทำมาหากินต่อไป ตนสงสาร พล.อ.ประวิตร และควรต้องพักได้แล้วสังขารไม่ได้แล้วถ้าจะมาทำงานให้ประเทศ

"ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องยากที่ใครจะพูดคุยกัน ประชาชนบอกว่าจะเลือกให้เอง ไม่ต้องไปรบกวน ส.ว. ให้ส.ว.อิสระ ใช้ดุลพินิจตามประชาชนอยู่แล้ว เขาจะไม่ยกให้ก็ช่วยไม่ได้" โทนี่ระบุ

ยัน 'คุณหญิงพจมาน' ไม่ยุ่งการเมือง ปัดสนิท 'ประวิตร'

ถามว่า แต่มีการวิเคราะห์โดยโยงกับ พล.อ.ประวิตรมีความสัมพันธ์กับคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ อดีตภริยาของ ดร.ทักษิณ โดยโทนี่ ระบุว่า ถามว่าคุณหญิงพจมาน กับ ประวิตร รู้จักกันดี แต่ไม่ได้สนิทสนม รูู้จัก พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร. ดี แต่ไม่ได้สนิทสนมขนาดนั้น โดยคุณหญิงพจมานไม่ได้ยุ่งการเมือง ยุ่งเรื่องสังคมไปมาหาสู่ เรื่องการเมืองไม่ยุ่ง ไม่บอกชี้นำทางการเมือง คนไทยถ้าบอกให้รู้จักก็รู้จักกันหมด มีใครไม่รู้ ถ้าอายุเกิน 50 ปีขึ้นไป 

ถามว่า กรณี สมศักดิ์ เทพสุทิน อดีต รมว.ยุติธรรม สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตรมว.อุตสาหกรรม ที่มาอยู่พรรคเพื่อไทย เพราะสองคนนั้นเคยอยู่ 3 ป.แม้เคยอยู่พรรคไทยรักไทย โทนี่ ระบุว่า การเมืองเมื่อก่อนแรง ทุกคนต้องดิ้นเอาตัวรอด แล้วไม่เป็นพิษเป็นภัยกับพรรคเพื่อไทย พร้อมที่จะกลับมาพรรคเพื่อไทยก็ยินดีจะรับ เพราะจริงๆแล้วตอนนั้น ใครเป็นพวกตน แล้วจะบี้เอาจนตาย ทหารชุดนี้คุมองค์กรอิสระ ดังนั้น เขาต้องเอาตัวรอดทุกคนเป็นธรรม

ส่วนที่ สมศักดิ์ บอกดินฟ้าอากาศเปลี่ยน โทนี่ระบุุว่า "สังเกตดู PM 2.5 หายไปเลย"

"วันก่อนเห็นจับชัดๆ ภูมิใจไทยกับพลังประชารัฐจับมือชัดเจน เตรียมตั้งรัฐบาลสองพรรค 180 เสียง ให้แต่ละพรรคทำนายเท่าไร จะมีผู้แทนประมาณ 1,000 คน"

ถามถึงกรณีมีนักร้องชอบรอฟังรายการของคุณโทนี่ กังวลโยงพรรคเพื่อไทยว่าโทนี่ชี้นำ  โดย โทนี่ ระบุว่า เชิญเถอะครับ อยากจะร้อง ร้องให้ดัง ผมเฉยๆ เพราะบางครั้ง บางคนยึดเป็นอาชีพ ต้องเคารพในอาชีพแต่ละคน เขาร้องจนมีผู้ใหญ่ใจดีให้รถเบนซ์ใช้ อันนี้เราต้องปล่อยเขาอย่าไปยุ่ง อาชีพใครอาชีพมัน"

ซัด 'ประยุทธ์' เคยค้านแนวทางสันติสุขแก้ไฟใต้ ชมนายกฯมาเลเซียหนุนพูดคุย

เมื่อถามถึงการแก้ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โทนี่ ระบุว่า ตอนสมัย ยิ่งลักษณ์เป็นนายกฯ ตนได้ไปพบกับบรรดากลุ่มที่มีปัญหาได้ไปพูดคุยนอกรอบแล้วนะน้อยมีการพูดคุยกันซึ่งวันนั้นพบว่า ผบ.ทบ.วันนั้นชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่เห็นด้วยกับการพูดคุยสันติภาพ และวันนี้ก็ต่ออายุกฎอัยการศึก ซึ่งวันนี้ตนบอกได้เลยว่าจากวันนี้ตอนยังไม่จบต้องเอาการเมืองนำทหาร  เราพูดคุยกันสร้างการพัฒนาให้คนจากจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยต้องเข้าถึง เข้าใจ พัฒนา

"ผมอยากบอกกับคนใต้ถึงเวลาที่จะต้องพูดคุยกันใครจะมีตัวแทนจากจุดไหนก็มาพูดคุยกันคุยเสร็จเรียบร้อยก็มาวางแนวร่วม การใช้ความรุนแรงไม่ดีทั้งฝ่ายก่อการร้ายหรือฝ่ายทหาร ไม่มีผลดีประเทศ ดังนั้นต้องมาพูดคุยกันแล้ววางแนวทางที่จะไปข้างหน้า" โทนี่ ย้ำ

ถามว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวทางกระบวนการพูดคุยสันติสุขในจังหวัดใช้แดนภาคใต้อย่างไรบ้างโดยทุกคนรู้สึกว่าเวลาการเมืองเปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลเซียถ้าสมมติว่า ถ้ารัฐบาลไทยจะเห็นโฉมหน้ากระบวนการพูดคุยที่เกินไปหรือไม่ โดย โทนี่ บอกว่า เปลี่ยนแน่นอนเพราะอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย มีความตั้งใจมากไม่เหมือนผู้นำในอดีตบางท่านที่คุยไปก็อยากขาวกันไปแต่อันวาเขาตั้งใจและตนเคยคุยกับ อันวาร์ ตอนสัมมนาร่วมกัน อันวาร์ มีความตั้งใจอยากให้เหตุการณ์สงบ 

โดยวันนี้ต้องร่วมมือกับมาเลเซียอย่างแน่นอนไม่รวมไม่ได้ และต้องคุยกันอย่างจริงใจโดยคุยกับแกนนำในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นบีอาร์เอ็นแต่จะต้องระวังบางกลุ่มไม่ได้อยู่แถวนั้นเลยแต่มีโทรโข่งอยู่ข้างนอกแล้วบอกว่าเป็นตัวแทน

ขอโทษเคยเข้าใจในอดีตผิด ยัน 'เพื่อไทย' ยินดีดันสันติสุขชายแดนใต้

ถามว่าโทนี่อยากพูดอะไรกับคน 3 จังหวัดชายแดนใต้ โทนี่บอกว่า อะไรที่เข้าใจผิดในอดีตก็ขออภัยแต่ความตั้งใจ อยากจะให้ภาคใต้สงบมีอยู่มากแล้วก็ถ้าได้ออกความคิดเห็นให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะทำให้กระบวนการสันติสุขของคนใต้กลับมาให้ได้อยากให้มีคนพุทธ คนมุสลิมได้อยู่ด้วยความเข้าใจกันเป็นญาติพี่น้องอยากเห็นที่สุดและคิดว่าได้เห็นก่อนจะมีตอนยังมีชีวิตอยู่อย่าง

ถามว่าพรรคเพื่อไทยมีแนวทางกระบวนการพูดคุยสันติสุขในจังหวัดใช้แดนพักใต้อย่างไรบ้างโดยทุกคนรู้สึกว่าเวลาการเมืองเปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นประเทศมาเลเซียถ้าสมมติว่าถ้ารัฐบาลไทยจะเห็นโฉมหน้ากระบวนการพูดคุยที่เกินไปหรือไม่โทนี่จะบอกว่าเปลี่ยนแน่นอนเพราะอันวามีความตั้งใจมากไม่เหมือนผู้นำในอดีตบางท่านที่คุยไปก็อยากขาวกันไปแต่อันวาเขาตั้งใจและเคยคุยกับผมเคยคุยกับ อันวาร์ ตอนสัมมนาร่วมกัน มีความตั้งใจอยากให้เหตุการณ์สงบ โดยวันนี้ต้องร่วมมือกับมาเลเซียอย่างแน่นอนไม่รวมไม่ได้ และต้องคุยกันอย่างจริงใจโดยคุยกับแกนนำในพื้นที่สามจังหวัดใช้แดนภาคใต้ไม่ว่าจะเป็นบีอาร์เอ็นแต่จะต้องระวังบางกลุ่มไม่ได้อยู่แถวนั้นเลยแต่มีโทรโข่งอยู่ข้างนอกแล้วบอกว่าเป็นตัวแทน

ถามว่าโทนี่อยากพูดอะไรกับคนสามจังหวัดใช้แดนพักใต้โทนี่บอกว่าอะไรที่เข้าใจผิดในอดีตก็ขออภัยแต่ความตั้งใจ อยากจะให้ภาคใต้สงบมีอยู่มากแล้วก็ถ้าได้ออกความคิดเห็นให้กับรัฐบาลพรรคเพื่อไทยยินดีที่จะทำให้กระบวนการสันติสุขของคนใต้กลับมาให้ได้อยากให้มีคนโพสต์คนมุสลิมได้อยู่ด้วยความเข้าใจกันเป็นญาติพี่น้องอยากเห็นที่สุดและคิดว่าได้เห็นก่อนจะมีตอนยังมีชีวิตอยู่อย่าง