เมื่อวันเสาร์ (2 กุมภาพันธ์) ที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท คอฟโก รัฐวิสาหกิจจากจีน สั่งซื้อถั่วเหลืองกว่า "ล้านตัน" จากสหรัฐฯ ซึ่งการซื้อถั่วเหลืองล็อตใหญ่ขนาดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการบรรลุ "ข้อตกลง" ทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ
ถั่วเหลือถือว่าเป็นผลิตผลทางการเกษตรที่เป็นตัวแปรหลักในความตึงเครียดทางการค้าระหว่าง 2 ประเทศมหาอำนาจ โดยเมื่อปี 2561 จีนซึ่งเป็นประเทศผู้นำเขาถั่วเหลืองอันดับหนึ่งของโลกลดปริมาณการสั่งซื้อจากสหรัฐฯ ส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองทรุดหนักและเกษตรกรชาวสหรัฐฯเผชิญความยากลำบากในการปล่อยผลผลิต
การนำเข้าถั่วเหลืองหยุดชะงักในช่วงเดือนกรกฏาคมปี 2561 หลังรัฐบาลจีนขึ้นภาษีนำเข้าถั่วเหลืองและสินค้าอื่นๆเป็นร้อยละ 25 ซึ่งเป็นการใช้นโยบายภาษีตอบโต้การขึ้นภาษีในแบบเดียวกันที่สหรัฐฯใช้
สงครามการค้าตอบโต้กันไปมาครั้งนี้ส่งผลให้การส่งออกถั่วเหลืองจากสหรัฐฯ ตกต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2551 โดยการขนส่งลดลงกว่าขึ้นลงมาอยู่ที่ 16.6 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม หลังสหรัฐฯและจีนบรรลุข้อตกลงหยุดความขัดแย้งเป็นเวลา 90 วัน ส่งผลให้จีนกลับมาสั่งซื้อถั่วเหลืองอีกครั้ง
เมื่อวันพฤหัสบดี (31 มกราคม) ธรรมเนียบขาวออกมากล่าวถึงข้อตกลงที่รัฐบาลจีนสัญว่าจะสั่งซื้อถั่วเหลืองจากสหรัฐฯถึง 5 ล้านตัน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์ออกมาเตือนผู้ส่งออกสหรัฐฯ ว่ามีความเป็นไปได้น้อยที่ปริมาณคำสั่งซื้อจะกลับไปเท่าก่อนช่วงสงครามการค้า แม้จะมีข้อตกลงสงบศุกทางการค้ามาช่วยบ้าง เนื่องจากจีนเริ่มหันไปนำเข้าจากแอฟริกาใต้และแหล่งอื่นๆ
เซี่ยวผิง จาง ผู้อำนวยการภูมิภาคคณะกรรมการการส่งออกถั่วเหลืองสหรัฐฯ กล่าวว่า คำสั่งซื้อถั่วเหลืองใดๆ ก็ตามก็นับเป็นข่าวดีกับสหรัฐฯ ทั้งหมด
“การค้าถั่วเหลืองกับจีนเป็นความหวังของผลในการแก้ปัญหาการค้าและจะสามารถขยายตัวได้ในอนาคตบนพื้นฐานความร่วมมือที่มีมาตั้งแต่ปี 2525” จาง กล่าว
หากถั่วเหลืองสามารถยุติสงครามการค้าได้จริง บรรดาประเทศที่โดนหางเลขจากความไม่ลงรอยของ 2 ประเทศ คงรัก 'ถั่วเหลือง' ไปอีกนาน
