วันที่ 15 ต.ค. 2565 ที่พรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวเปิดงานแถลงนโยบายชุดแรกของพรรค ได้แก่ “การเมืองไทยก้าวหน้า” โดยระบุว่าชุดนโยบายของก้าวไกล เป็นบ้านนโยบายที่ชื่อว่า “ไทยก้าวหน้า” มีเป้าหมายคือการสร้างประเทศไทยที่ก้าวหน้าใน 9 ประเด็น คือ การเมืองไทยก้าวหน้า ราชการไทยก้าวหน้า ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า เศรษฐกิจไทยก้าวหน้า เกษตรไทยก้าวหน้า สวัสดิการไทยก้าวหน้า การศึกษาไทยก้าวหน้า สุขภาพไทยก้าวหน้า และสิ่งแวดล้อมไทยก้าวหน้า โดยทั้งหมดอยู่บนฐานคิดเดียวกัน คือประเทศไทยเป็นของประชาชน
“เหตุที่ต้องเปิดนโยบายการเมืองเป็นอันดับแรก เพราะหากการเมืองไม่ดี ยากที่เศรษฐกิจ สังคม ปัญหาอื่นๆจะถูกแก้ไขได้ เพราะการเมืองเป็นเรื่องของการจัดสรรอำนาจ และทรัพยากร ใครจะได้บริหารประเทศ ใครจะเอาภาษี เอางบประมาณไปใช้ทำอะไร จะนำพาประเทศไปในทางไหน หากการเมืองไม่ดี เราจะไม่มีวันได้เห็นประเทศที่ก้าวหน้ากว่านี้” พิธา กล่าว
สำหรับนโยบายการเมืองไทยก้าวหน้าที่พรรคก้าวไกลแถลงในวันนี้ ประกอบด้วย 4 หัวข้อหลัก คือ ทหารของประชาชน ศาลของประชาชน คนเท่ากัน และรัฐธรรมนูญใหม่ปลดล็อกประเทศไทย
พิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงถึงนโยบายปฏิรูปกองทัพ โดยเริ่มจากการ “แจกใบแดงนายพล” ห้ามนายพลเกษียณอายุเป็นรัฐมนตรีจนกว่าจะเกษียณครบ 7 ปี เพื่อตัดวงจรการใช้อำนาจเส้นสายระบบอุปถัมภ์ของกองทัพมาสู่อำนาจทางการเมือง
นอกจากนี้พรรคก้าวไกลยังมีนโยบาย ยุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ใช้อำนาจล้นเกิน ก้าวก่ายกิจการราชการพลเรือน และในขณะเดียวกันก็ยกเลิกกฎอัยการศึกในจังหวัดชายแดนใต้ ซึ่งนำไปสู่การซ้อมทรมานในค่ายทหาร สร้างบาดแผล ความไม่ไว้วางใจให้กับคนในพื้นที่ ขัดขวางการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้
พิจารณ์ ยังระบุว่า จะมีการปรับโครงสร้างกองทัพให้กระชับ คล่องตัว ยกเลิกการบังคับเกณฑ์ทหาร ลดจำนวนนายพล เพิ่มสวัสดิการทหารชั้นผู้น้อย ยกเลิกระบบทหารรับใช้ ทหารต้องมีศักดิ์ศรีและปฏิบัติหน้าที่อย่างมืออาชีพ นอกจากนี้พรรคก้าวไกลยังจะจัดการให้กองทัพคืนธุรกิจของกองทัพ ทั้งสนามกอล์ฟ โรงแรม ม้า มวย ให้กับรัฐบาล รวมถึงคืนที่ดินของกองทัพที่มีอยู่มากมายทั่วประเทศ ให้มาเป็นที่ทำกินของประชาชน แลัวให้ท้องถิ่นนำมาใช้ประโยชน์ เช่นทำสนามกีฬาหรือลานเอนกประสงค์
รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล แถลงนโยบายการเมืองไทยก้าวหน้า ในหมวดศาลและกระบวนการยุติธรรม เริ่มจากการปฏิรูปศาลให้ยึดโยงรับใข้ประชาชน ให้ผู้พิพากษาต้องเปิดเผยบัญชีทรัพย์สิน และแก้ไขกฎหมายที่ละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ได้แก่กฎหมายอาญามาตรา 112, มาตรา 116, พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์
ซึ่งพรรคก้าวไกลได้เสนอแก้ไขไปแล้ว และขณะนี้ร่างแก้ไขชุดกฎหมายเหล่านี้ ได้ถูกบรรจุเข้าสู่วาระการพิจารณาของสภาแล้ว ยกเว้นร่างแก้ไขกฎหมาย 112 ที่สภาไม่ยอมบรรจุเข้าวาระ โดยอ้างว่าขัดรัฐธรรมนูญ แต่พรรคก้าวไกลยืนยันจะเดินหน้าผลักดันต่อไปหากได้เป็นรัฐบาล และย้ำว่าการแก้ 112 ไม่ขัดรัฐธรรมนูญ เนื่องจากไม่ได้กระทบต่อพระราชสถานะองพระมหากษัตริย์ ในฐานะประมุขของประเทศ
รังสิมันต์ยังเปิดนโยบายการนำรัฐบาลไทยให้สัตยาบันรับเขตอำนาจศาลอาญาระหว่างประเทศ หรือ ICC เพื่อชำระสะสางคดีอาชญากรรมที่รัฐกระทำต่อประชาชน เช่นเหตุการณ์สังหารหมู่คนเสื้อแดงในปี 2553 รวมถึงโศกนาฏกรรมตากใบ และป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมเช่นนี้อีกในอนาคต ยุติวัฒนธรรมพ้นผิดลอยนวลที่เกาะกินประเทศไทย
และข้อเสนอใหญ่ที่สุดของพรรคก้าวไกล คือการนิรโทษกรรมคดีการเมือง โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา เพื่อคืนความเป็นธรรมและอนาคตให้กับประชาชนที่ต้องคดีการเมืองเพียงเพราะแสดงความเห็นต่าง และวิพากษ์วิจารณ์สถาบันกษัตริย์
ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกล เขตสายไหม แถลงชุดนโยบายการเมืองไทยก้าวหน้า ในหมวด “คนเท่ากัน” ซึ่งว่าด้วยการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพและศักดิ์ศรีของคนทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน เริ่มจากการจ้างงานคนพิการ 20,000 ตำแหน่ง เพื่อให้ดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี รวมถึงการเสนอนโยบาย “อัตลักษณ์ทางเพศก้าวหน้า” คือการรับรองความหลายหลายทางเพศอย่างเท่าเทียมกัน บุคคลเลือกคำนำหน้าได้ตามความสมัครใจ
อีกทั้งมีการเพิ่มตำรวจหญิงทุกสถานี เพื่อให้ทำหน้าที่เป็นพนักงานสอบสวนในคดีล่วงละเมิดทางเพศ เอื้ออำนวยให้ผู้เสียหายสะดวกใจที่จะเข้าแจ้งความ ไม่กระทบกระเทือนจิตใจซ้ำจากกระบวนการสอบสวน นำไปสู่การอำนวยความยุติธรรมในคดีทางเพศอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
รวมถึงนโยบายที่ส่งเสริมสิทธิผู้หญิง คือการเพิ่มวันลาคลอดเป็น 180 วัน และพ่อแม่สามารถแบ่งกันใช้ได้ เพื่อให้หน้าที่เลี้ยงลูกในวัยแรกเกิดเป็นของทั้งพ่อและแม่ ไม่เป็นภาระของแม่แต่เพียงฝ่ายเดียว นโยบายนี้จะยังเป็นการส่งเสริมสถาบันครอบครัว ให้เด็กได้เติบโตมาอย่างอบอุ่น ได้รับการดูแลโอบอุ้มจากพ่อแม่อย่างใกล้ชิดในวัยเริ่มต้นของชีวิต
นอกจากนี้ พรรคก้าวไกลยังจะเสนอให้พระสามารถเลือกตั้งได้เช่นเดียวกับนักบวชศาสนาอื่น เนื่องจากพระก็ยังต้องไปเกณฑ์ทหาร ยังต้องอยู่ใต้กฎหมาย แต่กลับต้องถูกยกเว้นไม่ได้รับสิทธิ์ในการเลือกตั้ง
พริษฐ์ วัชรสินธุ ผู้จัดการฝ่ายสื่อสารและรณรงค์นโยบายของพรรคก้าวไกล ปิดท้ายการแถลงนโยบายการเมืองไทยก้าวหน้า ด้วยการสถาปนารัฐธรรมนูญใหม่ฉบับประชาชน ที่มีเนื้อหาสำคัญคือการปิดช่องรัฐประหาร ปิดช่องการให้คณะรัฐประหารนิรโทษกรรมตัวเอง ปลดอาวุธระบอบประยุทธ์ที่ถูกฝังไว้ในรัฐธรรมนูญ 2560 คือ ส.ว. แต่งตั้ง องค์กรอิสระ และยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
รัฐธรรมนูญใหม่ยังจะต้องปลดล็อกท้องถิ่นใน 3 เรื่อง คือปลดล็อกอำนาจ ให้ท้องถิ่นเป็นผู้รับผิดชอบหลักในการจัดการบริการสาธารณะทั้งหมดในพื้นที่ ปลดล็อกงบประมาณ ให้ท้องถิ่นมีเงินเพียงพอในการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ และที่สำคัญที่สุด คือการปลดล็อกทุกจังหวัด ให้ผู้บริหารสูงสุดของทุกจังหวัดมาจากการเลือกตั้ง
พริษฐ์ ยืนยันว่า การร่างรัฐธรรมนูญใหม่จะต้องเป็นไปโดยตัวแทนของประชาชน โดยมีการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญโดยตรงจากประชาชน ซึ่งหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล จะจัดการประชามติเพื่อนำไปสู่การร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทันทีภายใน 100 วันแรก และจัดทำรัฐธรรมนูญให้แล้วเสร็จ เพื่อให้การเลือกตั้งทั่วไปครั้งหน้าเป็นครั้งสุดท้ายที่จัดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 แต่การเลือกตั้งครั้งถัดไปจะเกิดขึ้นภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปลดล็อกประเทศไทยจากมรดกคณะรัฐประหารอย่างแท้จริง
ทั้งนี้ ชุดนโยบายการเมืองไทยก้าวหน้า เป็นชุดนโยบายแรกที่พรรคก้าวไกลเปิดต่อสาธารณะ แต่ในเดือนพฤศจิกายน พรรคจะเปิดชุดนโยบายต่อไป ได้แก่ “ทุกจังหวัดไทยก้าวหน้า” ว่าด้วยการปลดปล่อยศักยภาพของท้องถิ่น ให้เจริญทัดเทียมกันทั่วประเทศ และ “สวัสดิการไทยก้าวหน้า” เปิดชุดนโยบายสวัสดิการถ้วนหน้า ครบวงจร ไม่ต้องพิสูจน์ความจน ที่เรามั่นใจว่าจะโอบอุ้มประชาชนทั้งประเทศให้ก้าวไปสู่อนาคตที่ดีกว่าอย่างเท่าเทียมกันได้ ลดความเหลื่อมล้ำที่เกาะกินสังคมไทยมานาน