ต่างประเทศ
เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ 2 ลูก ตอบโต้เกาหลีใต้-สหรัฐฯ ซ้อมรบร่วม
เสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้กล่าวว่า พวกเขาตรวจพบการยิงขีปนาวุธจากเขตเมืองหลวงของเกาหลีเหนือเมื่อวันพฤหัสบดีทีผ่านมา (15 มิ.ย.)
ในอีกทางหนึ่ง กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่า ขีปนาวุธทั้ง 2 ลูกตกลงในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของญี่ปุ่น ซึ่งอาจร่อนในวิถีโคจรที่ไม่สม่ำเสมอ โดยขีปนาวุธหัวหนึ่งตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่นหรือทะเลตะวันออก ห่างจากเกาะเฮกุระไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 110 กิโลเมตร ในพื้นที่ของจังหวัดอิชิกาวะ และขีปนาวุธอีกหัวหนึ่งตกอยู่ห่างออกไปประมาณ 250 กิโลเมตร
ทั้งนี้ สหรัฐฯ ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ประณามการกระทำของเกาหลีเหนือ โดยแถลงการณ์ร่วมของทั้ง 3 ชาติระบุว่า “การยิง (ขีปนาวุธ) เหล่านี้ เป็นการละเมิดอย่างชัดเจนต่อมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติหลายข้อ และแสดงให้เห็นถึงภัยคุกคามต่อโครงการอาวุธทำลายล้างสูง และขีปนาวุธที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายของเกาหลีเหนือที่มีต่อภูมิภาค สันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และระบอบการปกครองที่ไม่แพร่ขยายอาวุธทั่วโลก”
ทั้งนี้ เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของ โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อยู่ในกรุงโตเกียวเพื่อพบปะกับ โชแทยอง และ ทาเคโอะ อากิบะ เจ้าหน้าที่ระดับสูงของเกาหลีใต้และญี่ปุ่น ในขณะที่เกาหลีเหนือทำการยิงขีปนาวุธทั้ง 2 ลูก โดยตามรายงานการประชุมที่เผยแพร่โดยญี่ปุ่น ทั้งสามหารือเกี่ยวกับโครงการขีปนาวุธของเกาหลีเหนือ และยืนยันว่าพวกเขาจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เกาหลีเหนือละทิ้งอาวุธนิวเคลียร์
ก่อนหน้านี้ในวันพฤหัสบดี ยุนซอกยอล ประธานาธิบดีกาหลีใต้ เฝ้าดูทหารเกาหลีใต้และสหรัฐฯ หลายพันนายเข้าร่วมการซ้อมรบด้วยกระสุนจริง ในการแสดงแสนยานุภาพครั้งล่าสุดที่ชาติพันธมิตรระบุว่าจำจะต้องมีขึ้น เพื่อเป็นการยับยั้งเกาหลีเหนือจากพฤติกรรมที่ก้าวร้าว
โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือกล่าวว่า การซ้อมรบดังกล่าวทำให้ความตึงเครียดทางทหารทวีความรุนแรงขึ้นในภูมิภาค และกองกำลังจะตอบโต้อย่างรุนแรงต่อ “การประท้วงหรือการยั่วยุใดๆ จากศัตรู” โดยก่อนหน้านี้ เกาหลีเหนือพยายามส่งดาวเทียมสอดแนมขึ้นสู่อวกาส แต่กลับไม่ประสบกับความสำเร็จเมื่อปลายเดือนที่แล้ว นับเป็นความพยายามในการส่งดาวเทียมครั้งแรกของเกาหลีเหนือตั้งแต่ปี 2559 ทั้งนี้ เครื่องเสริมจรวดและตัวจรวดของเกาหลีเหนือดังกล่าวตกลงสู่ทะเล
โครงการขีปนาวุธและอาวุธนิวเคลียร์ของเกาหลีเหนือ ถูกห้ามโดยมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติด้วยการออกมติคว่ำบาตร ทั้งนี้ ความพยายามทางการทูตเพื่อลดความตึงเครียด หรือโน้มน้าวให้เกาหลีเหนือละทิ้งคลังแสงนิวเคลียร์กลับหยุดชะงักลง ในอีกทางหนึ่ง เกาหลีใต้ได้ฟ้องเกาหลีเหนือเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (14 มิ.ย.) เพื่อเรียกค่าเสียหาย 35 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ประมาณ 1.2 พันล้านบาท) จากการที่สำนักงานประสานงานที่เกาหลีเหนือถูกระเบิดในปี 2563 โดยคดีนี้ชี้ให้เห็นถึงความสัมพันธ์ที่ขาดสะบั้นลงระหว่างเกาหลีใต้และเหนือ
ที่มา:
