วันที่ 9 ส.ค. ที่อาคารรัฐสภา สุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานพรรคชาติพัฒนากล้า เผยถึงการหารือกับพรรคเพื่อไทยในเข้าร่วมจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า เมื่อวานนี้ (8 ส.ค.) ก็ได้รับการติดต่อว่า ต้องการให้พรรคชาติพัฒนากล้า มาหารือกันอีกครั้งในการเข้าร่วมรัฐบาล จึงยังไม่ทราบรายละเอียดของการหารือในเบื้องต้นว่าจะเป็นอย่างไรบ้าง 

เมื่อถามว่ามองโอกาสในการจัดตั้งรัฐบาลมีมากน้อยแค่ไหน สุวัจน์ กล่าวว่า เราต้องช่วยกันพยายามให้การตัดตั้งรัฐบาลสำเร็จ มาถึงวันนี้ก็ 3 เดือนแล้ว ที่เราไม่มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มีเพียงรัฐบาลรักษาการที่มีขีดจำกัดในการบริหารประเทศ รวมถึงกระทบความเชื่อมั่นและ สร้างความกังวนใจให้กับนักลงทุนและประชาชน หากเราช่วยกันสนับสนุนในทุกแนวทางที่ถูกต้องเพื่อให้เพื่อให้เกิดรัฐบาลได้ ก็จะเป็นผลดีต่อการแก้ไขปัญหาประเทศ 

สุวัจน์ ยังมีความเชื่อมั่นและให้กำลังใจกับพรรคเพื่อไทย ให้ประสบความสำเร็จ เพราะพรรคเพื่อไทยเคยเป็นรัฐบาลมาแล้ว มีประสบการณ์ ในการจัดตั้งรัฐบาล ความเข้าใจที่จะพูดกับพรรคการเมืองต่างๆ ในส่วนของพรรคชาติพัฒนากล้าหากมีอะไรให้ช่วยก็ยินดี เพราะพรรคเพื่อไทยก็มาถูกต้องตามครรลองคลองธรรม เป็นพรรคอันดับ 2 และได้เสียงข้างมากที่จะเกินครึ่งหนึ่งในการจัดตั้งรัฐบาล 

เมื่อถามถึงเงื่อนไขในการเลือกนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย สุวัจน์ กล่าวว่า ต้องหารือกันเพราะยังไม่ทราบโครงสร้างว่าพรรคที่จะประกอบกันเป็นรัฐบาลมีพรรคใดบ้าง แต่ก็คิดว่าพรรคเพื่อไทยสามารถจะจัดตั้งรัฐบาลได้สำเร็จ ในวันนี้จะเป็นการพูดคุยกันอย่างเป็นทางการครั้งแรก จึงยังไม่ทราบจำนวนเสียงที่จะสนับสนุน

แง้มอาจเปลี่ยนชื่อพรรค 'ชาติพัฒนากล้า'

สุวัจน์ เปิดเผยว่า จากกรณีที่ กรณ์ จาติกวณิช อดีตหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรค ตามข้อบังคับพรรค จะมีผลให้คณะกรรมการบริหารพรรคทุกคนสิ้นสภาพ และมีการเลือกตั้งใหม่ภายใน 60 วัน หลังจากที่หัวหน้าพรรคประกาศลาออก เพราะฉะนั้นจึงได้กำหนดวันประชุมใหญ่พรรค ในวันที่ 21 ส.ค. ที่ จ.นครราชสีมา โดยมีวาระที่สำคัญคือ จะต้องเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการเปลี่ยนชื่อพรรคหรือไม่ สุวัจน์ กล่าวว่า แล้วแต่สมาชิก แต่ไม่ใช่เรื่องที่จะต้องตัดสินใจในวันดังกล่าว ที่แน่ๆ จะต้องถามหัวหน้าพรรคคนใหม่ เพราะเรายังมี สส.อยู่ในสภา จะต้องมีการทำงานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงนโยบายที่เราได้พูดไว้กับประชาชน ว่าหากพรรคได้เป็นส่วนหนึ่งของการเป็นรัฐบาล เราจะต้องพยายามช่วยกันผลักดันให้รัฐบาลเป็นไปในทางที่สอดคล้องกับสิ่งที่เราได้รับความคิดเห็นจากประชาชน

เมื่อถามถึงสเปกของหัวหน้าพรรค ควรเป็นอย่างไร สุวัจน์ กล่าวว่า คงจะต้องเป็นผู้ที่มีประสบการณ์ มองว่าตอนนี้การเมืองมีวิกฤต เศรษฐกิจก็วิกฤต ดังนั้นต้องเป็นผู้ที่บริหารทั้ง 2 ด้านได้ ในเรื่องการเมืองจะต้องมีวุฒิภาวะพอสมควร

เมื่อถามย้ำว่า มีแคนดิเดตหัวหน้าพรรคแล้วใช่หรือไม่ สุวัจน์ กล่าวว่า ก็ต้องแล้วแต่สมาชิกพรรค ต้องเป็นไปตามข้อบังคับพรรค จะเห็นด้วยหรือไม่อย่างไร ก็ยังมีเวลาที่จะพูดคุยกัน

สุวัจน์ ยังเผยว่า ยังอยู่ดำรงตำแหน่งประธานพรรคต่อไป เพราะตำแหน่งดังกล่าวไม่ได้ผูกกับคณะกรรมการบริหารพรรค นี่คือเหตุผลที่ว่าเมื่อเรามีสูญญากาศทางการเมือง เราก็ยังมีประธานพรรคอยู่ นี่ก็เป็นตัวช่วย

เมื่อถามย้ำว่า จะต้องกลับมาควบตำแหน่งหัวหน้าพรรค ให้พรรคกลับมายิ่งใหญ่อีกหรือไม่ สุวัจน์ กล่าวติดตลกว่า “ก็ไม่เลวนะ” ขอให้รอดูในวันที่ 21 ส.ค. ทั้งเรื่องหัวหน้าพรรคและชื่อพรรค ก็จะมีการพูดคุยกันในวันนั้น