ไม่พบผลการค้นหา
กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เผยผลการผ่าพิสูจน์ซากวาฬบรูด้าที่พบลอยเน่ากลางอ่าวไทย ชี้สาเหตุการตายน่าจะมาจากเข้าไปติดเครื่องมือประมงประเภทอวนลอยหรืออวนจม

นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. เปิดเผยผลการชันสูตรซากวาฬบรูด้า เพศเมีย ที่พบซากเน่าลอยอยู่กลางทะเลอ่าวไทยตอนบน จ.เพชรบุรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่กลุ่มสัตว์ทะเลหายากและทีมสัตวแพทย์ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งอ่าวไทยตอนบน ได้ชันสูตรซากวาฬ พบรอยกากบาทลักษณะคล้ายตาอวนหลายแห่ง โดยเฉพาะส่วนกรามล่างทั้ง 2 ข้าง อีกทั้งใต้ผิวหนังมีเลือดออกในกล้ามเนื้อและมีบาดแผล คาดว่าสาเหตุการตายเกิดจากพลัดหลงเข้าไปติดเครื่องมือประมงประเภทอวนลอยหรืออวนจมที่มีขนาดตาอวนประมาณ 6 เซนติเมตร แล้วถูกลากหรือสะบัดไปกระแทกกับของแข็งไม่มีคมอย่างรุนแรงทำให้วาฬบรูด้าตาย

ส่วนการผ่าซากภายในพบการสะสมของเลือดบริเวณปอด 2 ข้างที่ถูกกระแทกจากของแข็ง ผนังกระเพาะปกติไม่มีพลาสติกตกค้างในกระเพาะอาหาร โดยจากการสังเกตลักษณะของวาฬตัวนี้ มีจุดสังเกตตรงกับข้อมูลวาฬที่มีการบันทึกไว้ ชื่อ “ปิ่น” เป็นลูกของแม่กันยา เพศเมีย อายุประมาณ 2 ปี มีอัตลักษณ์บริเวณครีบหลังมีจุดใต้คางและรอยแผล โดยสำรวจไว้ครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. 2560 ถือเป็นวาฬ 1 ใน 40 ตัวที่ได้สำรวจตั้งชื่อและรหัส ตามอัตลักษณ์ของวาฬ

ทั้งนี้เมื่อผ่าชันสูตรเสร็จจะฝั่งกลบซากวาฬไว้เป็นเวลา 1 ปี แล้วจะเก็บกระดูกเข้าสู่พิพิธภัณฑ์ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ต่อไป

ปัจจุบันทะเลฝั่งอ่าวไทยตอนบนประเทศไทยมีวาฬบรูด้าประมาณ 50 ตัว จากทั้งหมด 100 ตัวทั่วประเทศ เบื้องต้นจะหาแนวทางป้องกันปริมาณวาฬบรูด้าในอ่าวไทยไม่ให้ได้รับอันตรายจากเครื่องมือประมง และกำชับให้ทุกหน่วยงาน และภาคเอกชนนำเที่ยวชมวาฬ ให้นักท่องเที่ยวที่ไปรักษาระยะห่างอยู่ในจุดที่ไม่เป็นอันตรายกับวาฬ

Photo by Jennett Bremer on Unsplash

ข่าวที่เกี่ยวข้อง