เมื่อวันที่ 19 ม.ค. 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวง (รมว.) กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์โควิด-19 ว่าสถานการณ์ตอนนี้มีผู้ติดเชื้อลดลง เพราะสามารถควบคุมได้ แต่ถ้าควบคุมได้ก็ไม่มีปัญหา เนื่องจากที่ผ่านมามีการเตรียมความพร้อม ทั้งมาตรการคัดกรอง การจัดพื้นที่ควบคุม ซึ่งได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชน ใช้โรงงานเป็นสถานที่กักตัว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญวันนี้ ต้องขอความร่วมมือจากทุกคน เพราะมาตรการต่างๆ ยังคงต้องดำเนินการอยู่ ขณะเดียวกัน ตอบไม่ได้ ว่าจะลดมาตรการลงเมื่อใด แต่เบื้องต้นต้องประเมินเป็นระยะๆ และจะต้องประเมินอีกครั้งสิ้นเดือนม.ค.นี้

พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึง การบิดเบือนการนำเข้าวัคชีนโควิด-19 ว่ามีการบิดเบือนทุกเรื่อง ทุกอย่างไม่ใช่ข้อเท็จจริง ดังนั้นขอให้ทุกคนระมัดระวังในการนำเสนอข่าวเรื่องนี้ เรื่องใดก็ตามที่มีการบิดเบือน ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงแล้วนำมาเผยแพร่ ในสื่อหรือโซเซียล จะให้มีการดำเนินคดี ทุกเรื่อง และอย่าหาว่าเอากฎหมายมาขู่ เพราะตนต้องรักษาความเชื่อมั่นของรัฐบาล ไม่เช่นนั้นก็ต่างคนต่างเขียน ซึ่งไม่มีความรับผิดชอบ 

นายกฯ แจงเยียวยาจะดูแลให้มากที่สุด 

พล.อ.ประยุทธ์ ได้เน้นย้ำในเรื่องการอนุมัติแผนการให้เงินช่วยเหลือเยียวยาในระยะต่อไป โดยจะให้รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจเป็นผู้ชี้แจงในรายละเอียดว่าใครจะได้รับการเยียวยาบ้าง ได้อย่างไร และขึ้นทะเบียนอย่างไร ซึ่งยืนยันรัฐบาลจะดูแลให้มากที่สุดในงบประมาณที่เหลืออยู่ แต่อย่างไรก็ตามต้องสงวนไว้บางส่วน เพื่อเตรียมการรองรับหากมีการแพร่ระบาดในระยะต่อไปด้วย 

ใช้หนี้ 9,000 ล้านบาทรถไฟฟ้าสายสีเขียว

นายกรัฐมนตรียังระบุกรณีหนี้ 9,000 ล้านบาท ที่ กทม.ต้องชำระให้เอกชน (BTS) จากการเปิดใช้รถไฟฟ้าฟรีของรถไฟฟ้าสีเขียว ว่า เป็นเรื่องที่คณะผู้รับผิดชอบต้องหารือกัน ไม่ขอตอบเรื่องเหล่านี้ ซึ่งการตั้งคำถามอาจเป็นการถามนำให้ตนเองพูด ขณะนี้ทุกอย่างยังอยู่ในขั้นตอนและกระบวนการ ซึ่งมีหลายหน่วยงาน​เกี่ยวข้อง และเชื่อว่าจะมีการเสนอแนวทางแก้ไขเข้ามาจนได้ ตนเองเป็นนายกฯ ก็ไม่ได้สั่งได้ทุกเรื่อง ต้องดูข้อกฎหมายและความรับผิดชอบ ส่วนเรื่องเกิดขึ้นเมื่อไหร่ต้องไปตามที่ต้นทาง ซึ่งตนในพยายามที่จะแก้ไขทุกอย่างอยู่ แต่อย่างเดียวที่ขอความร่วมมือ ความเข้าใจ และความไว้ใจ ดังนั้นอะไรที่ไม่เป็นสาระตนก็จะพยายามไม่พูด และขออย่านำเรื่องไร้สาระมาถามตน 

ขณะเดียวกัน โอกาสของประเทศมีอย่างเดียวคือประเทศไทยต้องไม่มีความขัดแย้ง ต้องมีการหารือการเข้ากระบวนการที่ถูกต้องไม่ว่าเรื่องใดก็ตาม ตนเองไม่ขัดแย้งสักเรื่อง ดังนั้น ก็ขอให้เข้าใจการทำงานของรัฐบาล หน้าที่ของรัฐมนตรีแต่ละคนด้วย วันนี้ตนเองทำหน้าที่ในนามของคณะรัฐมนตรี จะอนุมัติอะไรก็ต้องมาจากกระทรวงต่างๆที่ผ่านความเห็นจากคณะรัฐมนตรี พร้อมขอบคุณทุกคนที่ให้ความร่วมมือซึ่งตนเองคาดหวังเพียงเท่านั้น

ทั้งนี้ หลังแถลงจบ ระหว่างเดินจากตึกบัญชาการ ไปตึกไทยคู่ฟ้า ผู้สื่อข่าวได้สอบถามนายกรัฐมนตรี ว่าได้ชมเฟซบุ๊กไลฟ์ของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ที่กล่าวถึงเรื่องวัคซีน โดยนายกรัฐมนตรี ตอบสั้นๆ ว่า ได้ชี้แจงไปแล้ว