ไม่พบผลการค้นหา
'แพทองธาร' ควง 'ชลน่าน' พร้อมแกนนำพรรคนัดหมายสื่อมวลชน เตรียมเปิดตัว 'ณัฐวุฒิ' กลับ 'เพื่อไทย' ในบทบาท 'ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย' หลัง 'เพื่อไทย' โพสต์วาทะของบุคคลปริศนา ซึ่งเป็นประโยคที่ 'ณัฐวุฒิ' เคยปราศรัยในอดีต

วันที่ 14 มิ.ย. 2565 เฟซบุ๊กพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความเตรียมพบกับบุคคลสำคัญที่จะกลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทย โดยระบุว่า เขาคนนี้ เคยร่วมทุกข์ร่วมสุข เขาคนนี้ ร่วมต่อสู้บนถนนประชาธิปไตย เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องประชาชน เขาคนนี้ ไม่เคยละทิ้งอุดมการณ์ที่ว่าอำนาจสูงสุดอยู่ที่พี่น้องประชาชน คนเท่ากัน วันที่ 15 มิ.ย. 2565 ชวนทุกคนต้อนรับเขากลับบ้าน รับฟัง พูดคุย ทั้งเหตุผลที่เขาเลือกกลับบ้าน และบทบาทของเขาในครอบครัวเพื่อไทยหลังจากนี้ ตั้งแต่เวลา 10.30 น. เป็นต้นไป ผ่าน Live บนเพจเฟซบุ๊กและยูทูปพรรคเพื่อไทย

นอกจากนี้ พรรคเพื่อไทยยังระบุถึงถ้อยคำที่บุคคลดังกล่าวเคยพูดไว้ แล้วทุกท่านอาจรู้ได้โดยไม่ต้องบอกว่า ‘เขา’ คนนั้นคือใคร โดยเป็นประโยคที่ อดีตแกนนำ นปช.เคยกล่าวไว้ว่า "ประชาชนจะบอกดินบอกฟ้าว่าคนอย่างข้าก็มีหัวใจ"ซึ่งประโยคดังกล่าวเป็นคำปราศรัยของ ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำ นปช. และแกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ (อ.ห.ต.)

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน พรรคเพื่อไทยได้เผยแพร่กำหนดการผ่านสื่อมวลชนโดยระบุว่า ในวันพุธที่ 15 มิ.ย. 2565 เวลา 10.30 น. ณ ร้านหนังสือก็องดิด เดอะแจมแฟคทอรี่ คลองสาน นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ร่วมแถลงเปิดตัว ผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยคนใหม่ เพื่อสื่อสารถึงเหตุผลที่เข้าร่วมงานกับครอบครัวเพื่อไทย และ ภารกิจของผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย โดยมีแกนนำพรรคเพื่อไทยเข้าร่วมงานด้วย

การเปิดตัว ผอ.ครอบครัวพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ ทำให้คาดการณ์ได้ว่าเป็น ณัฐวุฒิ ที่ก่อนหน้านี้ได้ตัดสินใจทำงานทางการเมืองร่วมกับพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) เมื่อช่วงก่อนการเลือกตั้งปี 2562 ต่อมาพรรคไทยรักษาชาติถูกยุบพรรค และณัฐวุฒิต้องถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำในคดีเกี่ยวกับการเมืองและได้รับการปล่อยตัวในเวลาต่อมา จนถึงปัจจุบัน ณัฐวุฒิ ได้กลับมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยอีกครั้งในบทบาทใหม่ ผอ.ครอบครัวพรรคเพื่อไทย

ทั้งนี้ ณัฐวุฒิ เคยระบุในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 30 มี.ค. 2564 หลังได้รับอิสรภาพพ้นเรือนจำ จากการถูกจำคุกจากคำพิพากษาของศาลฎีกา ทำให้ถูกตัดสิทธิทางการเมืองเป็นเวลา 10 ปี ไม่สามารถดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ได้ ไม่สามารถลงสมัคร ส.ส. หรือตำแหน่งอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นท้องถิ่นหรือการเมืองรูปแบบใดก็ตาม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง