พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กล่าวถึงกรณีการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมประกาศชุมนุมหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ในวันที่ 25 พ.ย. โดยยอมรับว่าเป็นห่วงเรื่องสถานการณ์การชุมนุม เนื่องจากสถานที่มีความละเอียดอ่อนและเป็นสถานที่สำคัญ แต่ยืนยันว่าตำรวจมีความพร้อมในการดูแลกลุ่มผู้ชุมนุมและกลุ่มเห็นต่างทางการเมืองไม่ให้มีการปะทะกัน เพราะที่ผ่านมามีบทเรียนและมีช่องว่างทำให้เกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงขึ้น
ส่วนหลักการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมที่ฝ่าฝืนกฎหมาย ไม่ว่าจะกระทำผิดในข้อหาใด ตำรวจมีหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมายไม่จำเป็นต้องมีนโยบายใดมาสั่งการ แต่ที่ผ่านมายังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานผู้ชุมนุม หากฝ่าฝืนกฎหมายใดต้องถูกดำเนินคดี
อย่างไรก็ตาม มีรายงานกองบัญชาการตำรวจนครบาล มีหนังสือด่วนสั่งการให้มีการจัดเตรียมกำลังดูแลความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมวันที่ 25 พ.ย. ที่บริเวณหน้าสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ โดยระดมกำลังจากตำรวจภูธรภาค 1-8 บช.น และ ตชด ฯลฯ ดูแลรวม 39 กองร้อย จำนวน 5,850 นาย
ด้าน อนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ระบุถึง การชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎรในวันที่ 25 พ.ย. 2563 ว่า รัฐบาลมีความกังวลอาจจะเกิดความรุนแรงเกิดขึ้น หากกลุ่มผู้ชุมนุมไม่ดำเนินการตามที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจในการเตือนไว้ ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเตือนเป็นระยะ ในเรื่องที่สามารถทำได้หรือทำไม่ได้ ซึ่งการที่กลุ่มผู้ชุมนุมเดินทางไปยังที่สำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เจ้าหน้าที่ได้แจ้งกับกลุ่มผู้ชุมนุม ขอให้ดำเนินการตามที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขอความร่วมมือ เช่นการไม่รุกล้ำบริเวณที่ขอ โดยเข้าใจได้ว่าอาจจะมีการพูดคุยในรายละเอียด แต่อยากให้ภาพรวมเป็นไปอย่างสงบ เนื่องจากการที่ผู้ชุมนุมได้มีการดำเนินการตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาไม่ว่าจะเป็นบริเวณหน้ารัฐสภา หน้าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเห็นได้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมได้ดำเนินการในหลายส่วนที่ผิดกฎหมายอย่างชัดเจน ทำลายทรัพย์สินของราชการและเอกชน
อนุชา ยังระบุอีกว่า การชุมนุมครั้งต่อไปอยากจะให้เคารพกฎหมาย และชุมนุมด้วยความสงบ แต่หากเป็นการชุมนุมที่ผิดกฎหมาย รัฐบาลหรือทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะต้องดำเนินคดีกับผู้ที่ละเมิดกฎหมาย เพราะถือว่าประเทศไทยอยู่ในนิติรัฐ นิติธรรม เพราะฉะนั้นการที่ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันถือว่าเป็นความสำคัญที่ทุกอย่างจะดำเนินไปอย่างสงบ พร้อมกับอยากหลีกเลี่ยงให้เกิดการเผชิญหน้าหรือปะทะกัน หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นขอความกรุณาผู้ชุมนุมให้ชุมนุมภายใต้กฎหมาย ไม่เช่นนั้นประเด็นที่จะนำไปสู่ความสงบ จะทำให้เกิดความยากลำบากพูดคุย เพราะจะได้ตำรวจเองต้องดำเนินการตามหน้าที่ หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง ซึ่งนายกรัฐมนตรี ได้ออกแถลงการณ์ไปแล้วว่าการดำเนินการทางกฎหมายจะเข้มข้นขึ้น ไม่ยกเว้นมาตราใด ในกฎหมายขอให้หลีกเลี่ยงในการกระทำความผิด การชุมนุมสามารถทำได้แต่ขอให้อยู่ภายใต้กฎหมาย
เพจเฟซบุ๊ก เยาวชนปลดเเอก ประกาศนัดชุมนุมวันพรุ่งนี้ (25 พ.ย. 2563) ที่ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในเวลา 15.00 น. ก่อนเคลื่อนไปสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์
เปลี่ยนแผนนัดชุมนุม ตึกเอสซีบี
เวลา 22.30 น. โซเชียลมีเดียในเครือข่ายคณะราษฎร 2563 ได้แจ้งผ่านเฟซบุ๊กว่า การชุมนุมใหญ่ในวันที่ 25 พ.ย.นี้ จะเปลี่ยนไปสำนักงานใหญ่ SCB เพื่อลดการปะทะจากม็อบจัดตั้ง และเพื่อไม่ให้เดินตามเกมของทรราช พร้อมกัน 15.00 น. ร่วมทวงคืนทรัพย์สินที่ควรเป็นของราษฎร ทั้งนี้ จะมีทีมงานไปดูแลมวลชนที่ไม่ทราบข่าวแล้วไปอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย
ขณะที่ ด้านเพนกวิน พริษฐ์ ชิวารักษ์ แกนนำคณะราษฎร 2563 โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่าเพื่อลดการปะทะจากตำรวจรวมถึงทหาร และม็อบจัดตั้ง เพื่อไม่ให้เป็นเหตุให้เกิดการใช้ความรุนแรง การประกาศกฎอัยการศึก การรัฐประหาร หรืออะไรก็ตามที่เป็นเกมชั่วร้ายของทรราช ดังนั้น พรุ่งนี้ (25 พ.ย.) พบกันเวลา 15.00 น. หน้าสำนักงานใหญ่ธนาคารไทยพาณิชย์ “อย่าลืมเอาหมวกเป็ดกับไก่โอ๊กไปด้วยนะครับ” เพนกวิน ระบุ
อ่านเพิ่มเติม