เวลา 13.30 น. วันนี้(12ก.พ. 2562) นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. และ พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ กรรมการกสทช. ในฐานะประธานอนุกรรมการกำกับเนื้อหา เปิดเผยว่า บอร์ดฯ มีมติเป็นเอกฉันท์ให้สถานีโทรทัศน์วอซย์ทีวี ช่อง 21 ระงับการออกอากาศ(จอดำ) ให้มีผลตั้งแต่เวลา 00.01 คืนวันที่ 13-27 ก.พ. 2562 รวม 15 วัน
พล.ท.พีระพงษ์ มานะกิจ ระบุว่า มติบอร์ดข้างต้นเกิดจากตรวจสอบตามการร้องเรียนของประชาชนและบางองค์กร พบว่า รายการ Wake Up News และ Tonight Thailand มีการแสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ในเชิงยั่วยุ ขัดกับหลักกฏหมาย ดังนั้นบอร์ดจึงอาศัยการพิจารณาตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ในมาตรา 37 ที่ห้ามออกอากาศเนื้อหากระทบความมั่นคงของรัฐ และมาตร 64 และ 16 ประกอบกับคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 97/2557 และฉบับที่ 103 /2557
พล.ท.พีระพงษ์ ยืนยันว่า ไม่ได้เลือกปฏิบัติต่อฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง ที่ผ่านมาได้มีการเรียกทีวีหลายช่องเข้ามาชี้แจงตลอดในประเด็นเนื้อหาที่ขัดต่อกฎหมาย โดยยืนยันว่า บอร์ดฯ มีความเป็นกลาง และไม่มีใครอยู่เหนือบอร์ด กสทช. และมองว่า การพิจารณาครั้งนี้ไม่กระทบต่อบรรยากาศการนำเสนอเนื้อหาข่าวสารของแต่ละช่องในช่วงเลือกตั้ง เพราะเชื่อว่าแต่ละช่องมีการพิจารณาเนื้อหารายการก่อนนำเสนออยู่แล้ว
ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. ชี้แจงเพิ่มเติมว่า กสทช. ได้อาศัยอำนาจ ตามมาตรา 64 ประกอบกับมาตรา 16 และมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติประกอบกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ พ.ศ. 2551 ข้อ 20 ของประกาศคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้บริการกระจายเสียงหรือโทรทัศน์ พ.ศ. 2555 มีคำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตคลื่นความถี่ประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัลของช่อง วอยซ์ ทีวี เป็นระยะเวลา 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับคำสั่งเป็นต้นไป
โดยแนวทางหลังจากนี้ เลขาธิการฯ กสทช. ระบุว่า วอยซ์ทีวีไม่สามารถยื่นอุทธรณ์กลับมายังสำนักงาน กสทช.ได้ แต่สามารถยื่นคำร้องต่อศาลปกครองได้ภายใน 90 วันหลังจากได้รับหนังสือคำสั่งคำสั่งดังกล่าว
"คำสั่งที่ สทช. 2412/5124 คำสั่งกำหนดโทษทางปกครองให้พักใช้ใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่และประกอบกิจการโทรทัศน์ภาคพื้นดินในระบบดิจิทัล ตามหนังสือที่อ้างอิงถึง 1. สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงฯ แจ้งให้บริษัท วอยซ์ ทีวี จำกัด ผู้รับใบอนุญาตใช้คลื่นความถี่ฯ ช่องรายการ วอยซ์ ทีวี ทราบว่า สำนักงาน กสทช. ได้ตรวจสอบพบการออกอากาศรายการ Wake Up News เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2562 เวลาประมาณ 07.05 น. มีการนำเสนอในประเด็น "10 เรื่องที่คนไทยกังวลใจเกี่ยวกับเลือกตั้ง" "รปช.ติงชัชชาติไม่รู้จริงเรื่องข้าว" และ "เฉลิมเชื่อพรรค 3 ฝ่าย ปชต. กวาด 300 ที่นั่ง" และการออกอากาศรายการ Wake Up News เมื่อวันที่ 22 ม.ค. 2562 ซึ่งการนำเสนอในประเด็น "ทักษิณสอนมวยรัฐบาลแก้ปัญหาฝุ่นละออง" อันเป็นเนื้อหาที่อาจต้องห้ามมิให้มีการออกอากาศตามกฎหมาย และขัดต่อเงื่อนไขในการประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัทฯ จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้บริษัท ทราบและให้มาชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และคณะอุนกรรมการด้านผังรายการฯ ในวันที่ 29 ม.ค. 2562 เพื่อประกอบการพิจารณา และตามหนังสือที่อ้างถึง 2.สำนักงาน กสทช. แจ้งให้บริษัททราบว่าสำนักงาน กสทช. ได้รับเรื่องร้องเรียนให้ตรวจสอบรายการ Tonight Thialand เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2561 โดยนำเสนอประเด็น "สุดารัตน์ระอา ทหาร ตร. ยังตามประกบลงพื้นที่" และตามหนังสือที่อ้างถึง 3. สำนักงาน กสทช. ให้บริษัททราบ เรื่อง Wake Up News เมื่อวันจันทร์ที่ 28 ม.ค. 2562 นำเสนอประเด็น "เสรีพิศุทธ์ ปลุก ปชช. เอา ปชต. คืนมา" และรายการเดียวกันวันที่ 29 ม.ค. 2562 นำเสนอประเด็น "สุดารัตน์เปิด 5 แนวทางกระเป๋าตุง" "ชัชชาติประกาศดัน 6 ยุทธศาสตร์สู่ไทยยั่งยืน" และ "กกต. กดสื่อจัดผังหาเสียงคาดมี 45 พรรคส่งสมัคร ส.ส." และ หนังสือที่อ้างอิง 4. เรื่องให้ตรวจสอบรายการ Wake Up News วันที่ 4 ก.พ. 2562 นำเสนอการสัมภาษณ์ผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคการเมืองต่างๆ อันเป็นเนื้อหารายการที่อาจต้องห้ามมิให้มีการออกอากาศตามกฎหมาย และขัดต่อเงื่อนไขในการประกอบกิจการโทรทัศน์ของบริษัท จึงแจ้งข้อกล่าวหาให้บริษัททราบ และให้ชี้แจงข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ และคณะอนุกรรมการด้านผังรายการฯ ในวันที่ 5 ก.พ. 2562 เพื่อประกอบการพิจาณราในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป"
ด้านนายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ซีอีโอ) วอยซ์ ทีวี เผย รอบนี้ถึงเวลาต้องอุทธรณ์คำสั่งต่อศาลปกครอง พร้อมเรียกค่าเสียหาย ซึ่งคำนวนย้อนหลังแล้วมากกว่า 100 ล้านบาท
นายเมฆินทร์ ระบุว่า ที่ผ่านมาวอยซ์ ทีวีให้ความร่วมมือด้วยดีมาตลอด แม้จะเห็นแย้งในประเด็นกฎหมายเรื่องหลักการใช้อำนาจของ กสทช. ที่มักอ้างคำสั่ง คสช. และเอ็มโอยูที่ทางสถานีมองว่าไม่มีผลบังคับ แต่ที่ไม่ดำเนินการทางกฎหมายเพราะหวังว่าการให้ความร่วมมือจะทำให้สถานีได้ทำงานต่อโดยราบรื่น
อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าวอยซ์ ทีวีอยู่ในสถานะถูกเลือกปฏิบััติมาพอสมควรแล้ว และในเวลานี้ใกล้จะมีเลือกตั้ง เขาเห็นว่าสื่อยิ่งต้องการเสรีภาพ เขาจึงเห็นว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมที่จะใช้สิทธิในการอุทธรณ์ต่อศาลปกครอง เพื่อปกป้องเสรีภาพสื่อและวางบรรทัดฐานในการใช้อำนาจของ กสทช.
"ในสถานการณ์ที่ประเทศกำลังเดินหน้าสู่การเลือกตั้งภายในไม่กี่สัปดาห์ ข้อตกลงหรือข้อบังคับใดๆ สำหรับเหตุการณ์พิเศษควรยุติลงเพราะสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการตัดสินใจเลือกตั้งของประชาชนคือข้อมูลข่าวสารที่ครอบคลุม รอบด้าน มีคุณภาพ
"วอยซ์ ทีวีเห็นว่าเราถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมซ้ำแล้วซ้ำเล่า และนี่เป็นเวลาที่สมควรที่จะต้องยืนหยัดปกป้องเสรีภาพของตนเองรวมทั้งใช้กระบวนการทางกฎหมายในการวางบรรทัดฐานการใช้อำนาจของ กสทช. ให้เป็นไปตามหลักนิติรัฐ นิติธรรม และบนพื้นฐานของความเคารพในเสรีภาพสื่อมวลชน ซึ่งถูกตั้งคำถามและท้าทายอย่างยิ่งมาตลอดระยะเวลาหลังการรัฐประหาร 2557 เป็นต้นมา" นายเมฆินทร์ระบุในแถลงการณ์
วอยซ์ทีวีเป็นสถานีที่ถูกเรียกเพื่อตักเตือนและลงโทษ ปิดบางรายการรวม 17 ครั้ง และปิดทั้งสถานี 2 ครั้ง คือหลังการรัฐประหารของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เมื่อปี 2557 เป็นเวลา 26 วัน ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม 2557 ถึง 14 มิถุนายน
และอีกครั้งถูก กสทช. สั่งระงับการออกอากาศทั้งสถานีเป็นเวลา 7 วัน ระหว่างวันที่ 27 มีนาคม – 3 เม.ย. 2560
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง