พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ อาทิ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางจากท่าอากาศยานทหารอากาศกองบิน 6 ไปยังจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อตรวจเยี่ยมกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควัน กองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้าและส่งมอบอุปกรณ์สนับสนุนการปฏิบัติงาน

รวมทั้งร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การจัดการและแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในพื้นที่ภาคเหนือ ณ ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานภาคเหนือ โดยในการประชุม ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ จะรายงานสถานการณ์และการดำเนินงาน แก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าในจังหวัดเชียงใหม่ และมีผู้แทนภาคประชาชนในพื้นที่ จะเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาหมอกควันและไฟป่าให้ นายกรัฐมนตรีรับทราบ โดยจะกลับกรุงเทพมหานครในช่วงบ่าย เพื่อประชุมคณะรัฐมนตรีประจำสัปดาห์

นายกฯ มอบอุปกรณ์สนับสนุนปฏิบัติหน้าที่ป้องกันไฟป่า 

จากนั้น เวลา 08.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางถึง จ.เชียงใหม่ เดินทางไปตรวจเยี่ยมกองบัญชาการควบคุมสถานการณ์หมอกควันกองทัพภาคที่ 3 ส่วนหน้า และมอบอุปกรณ์สนับสนุนการปฎิบัติงานที่ มณฑลทหารบกที่ 33 ค่ายกาวิละ โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงห่วงใยความเดือดร้อนของประชาชนและกำชับให้แก้ปัญหานี้โดยเร็วที่สุด การมาในครั้งนี้มาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฎิบัติงานขอให้มีกำลังใจในการแก้ไขปัญหาขอให้ทุกคนต่อสู้กับความไม่ดี สู้กับอันตรายต่างๆ และขอทำงานโดยความปลอดภัย

"รู้ว่าทุกคนเหน็ดเหนื่อย เต็มที่ในการทำงาน รัฐบาลพร้อมให้การสนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ในการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาให้ได้โดยเร็ว และขอให้คลี่คลายในทางที่ดีขึ้นให้ได้ภายใน 7 วัน ซึ่งจะเร่งหามาตรการในการแก้ไขปัญหาอย่างเต็มที่ และจำเป็นต้องเข้มงวดในการใช้กฎหมายดำเนินการกับผู้กระทำความผิดเพื่อแก้ไขปัญหาในการลักลอบเผาป่า ขอให้ประชาชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมร่วมมือร่วมใจช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งภาครัฐต้องทำงานแบบบูรณาการมากขึ้น ให้ภาคประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมและเฝ้าระวัง พร้อมกับขอให้ติดตามผลการดำเนินการอย่างใกล้ชิด ปรับรูปแบบการทำงานให้เหมาะสมกับสถานการณ์ในพื้นที่ ให้การทำงานทุกส่วนขอให้คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลักอย่าให้เกิดการสูญเสีย พร้อมแสดงความเสียใจกับอาสาสมัครที่เสียชีวิตในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำหรับอุปกรณ์ของกองทัพที่นำมาใช้ในการช่วยเหลือ จะเห็นได้ว่าไม่ได้ใช้เพื่อการทหารเพียงด้านเดียว แต่นำมาใช้เพื่อสาธารณภัยช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนด้วย พร้อมสั่งการให้ตำรวจและทหารพักค้างในพื้นที่ป่า เพื่อดูแลและเฝ้าระวังไฟป่าอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ ได้มีการประสานความร่วมมือในการแก้ปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน และให้เจ้าหน้าที่ชี้แจงและทำความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับค่าฝุ่นละออง PM 2.5 เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนสับสน