วันที่ 4 ม.ค. เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และ รมว.คลัง กล่าวถึงภาพรวมการอภิปรายร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 วันแรก ว่า ก็ดี ตนมองว่ามีการแลกเปลี่ยนข้อมูล พูดจาอธิบายกันในภาษาที่มองว่าสร้างสรรค์พอสมควร แม้จะมีบ้างเล็กน้อย
เมื่อถามว่า แตกต่างจากการอภิปรายครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า สมัยก่อนไม่เคยฟัง จึงไม่ทราบและพูดไม่ได้
ส่วนที่มีวาทะกรรมงบประมาณ 'เป็ดง่อย' ทำให้สะดุดหรือไม่ นายกรัฐมนตรี ระบุว่า เรื่อวาทกรรมตนดู 2 มิติคือ วาทะกรรมกับเจตนารมณ์ ซึ่งเชื่อว่าเจตนารมณ์ของคนอภิปรายต้องการให้รัฐบาลไปปรับปรุงในวาระ 2 และ 3 ซึ่งถือโอกาสนำข้อเสนอแนะ ติชมไปปรับปรุงวาระ 2 และ 3
สำหรับเรื่อง เป็ดง่อย ก็ไม่แน่ใจว่ากลอนพาไปหรือเปล่า แต่ตนเองมั่นใจว่า "ถ้าท่าน (จุรินทร์) พูดถึงกระทรวงพาณิชย์ ที่ท่านเคยดูแลอยู่ ผมมั่นใจว่ารัฐมนตรีภูมิธรรม ในระยะเวลา 1 ปี ทำได้มากกว่าท่านทำ 4 ปีอีก"
เพราะเรื่องสนธิสัญญาระหว่างประเทศ (FTA) ถือเป็นเรื่องใหญ่ ตนเองก็เห็นเป็นที่ประจักษ์อยู่แล้วว่า ง่อยหรือไม่ง่อย และที่รัฐบาลทำตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง พร้อมย้ำถึงความมั่นใจในรัฐมนตรีชุดนี้ และเรื่องบางเรื่องนโยบายใช้น้อยมาก แต่ใช้ในเรื่องของความใส่ใจ ซึ่งเชื่อว่ารัฐมนตรีและรัฐบาลมีความปรารถนาดี
เมื่อถามถึงว่า พรรคก้าวไกลกล่าวหารัฐบาลชุดนี้ เดินตามรัฐบาลชุดที่แล้วเรื่องการจัดสรรงบประมาณมากเกินไป นายกรัฐมนตรี ระบุว่า งบประมาณมีที่มาที่ไปชัดเจน ซึ่งอะไรที่เป็นประโยชน์กับประชาชนในรัฐบาลที่แล้วเราก็ทำตาม และอะไรที่ควรปรับปรุงจะปรับปรุงและเปลี่ยนแปลง
ขณะที่เงินดิจิทัลวอลเล็ตที่ถูกอภิปรายว่าเหตุใดไม่ตั้งในงบ 67 นายกรัฐมนตรี ระบุว่า ชัดเจนอยู่แล้วว่าเป็น พ.ร.บ. ซึ่งตอนนี้รอข้อแถลงกฤฎีกาอยู่ ยังไม่มีการรายงานความคืบหน้ามา แต่วันนี้หากเจอจะสอบถามดู
เมื่อถามถึง จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกฯ และ รัฐมนตรีพาณิชย์ ที่ตั้งฉายาเปรียบนายกรัฐมนตรีเป็น 'นักกู้ถุงเท้าสีชมพู' นายกรัฐมนตรี ก้มมองที่ถุงเท้า พร้อมระบุว่า ก็ใส่ให้ท่านดูวันนี้ ก่อนระบุว่าก็เป็นสีสัน ไม่ได้มีอะไร ซึ่งทุกคนก็กู้หมดแต่สำคัญว่ากู้แล้วทำประโยชน์ให้ประเทศมากกว่า โดยยึกหลักการจัดทำงบประมาณเอาประชาชนเป็นที่ตั้ง พร้อมย้ำว่าใส่ถุงเท้าสีไหนก็ทำได้ ไม่เกี่ยวกัน
‘จุรินทร์’ ยันมีผลงานในตำแหน่ง รมว.พาณิชย์
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ สส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ชี้แจงกรณี เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ออกมาตอบโต้การอภิปรายฉายางบประมาณเป็ดง่อย พร้อมบอกว่าการทำงานของนายจุรินทร์ 4 ปี เทียบกับภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กระทรวงพาณิชย์ ที่ทำ 1 ปี ไม่ได้ ว่า ท่านนายกฯคงฟังไม่ได้ศัพท์ เพราะเมื่อวานที่อภิปรายไม่ได้พูดถึงกระทรวงพาณิชย์ แต่พูดถึงร่างพระราชบัญญัติงบประมาณว่าเหมือนงบเป็ดง่อย
เพราะมีเวลาใช้เพียง 5 เดือน จากงบประมาณ 3.48 ล้านล้านบาท ซึ่งโดยปกติประสิทธิภาพการใช้งบลงทุนซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เรามีประสิทธิภาพแค่ 70 % ระยะเวลาก็เหลือเพียง 5 เดือนคือ 40 % ของเวลาทั้งหมด สุดท้ายงบประมาณฉบับนี้จะกลายเป็นงบเป็ดง่อย ไม่สามารถนำไปสู่การกระตุ้น GDP ตามเป้าหมายได้ การที่นายกรัฐมนตรีออกมาพูดถึงกระทรวงพาณิชย์ ตนมองว่า ท่านพูดเร็วไปหน่อย หรืออาจจะปากไวไปหน่อย
"ที่บอกว่าอยู่ 1 ปี ทำมากกว่าผม 4 ปี ไม่เป็นไร เพราะผมไม่ได้ไปวิจารณ์กระทรวงพาณิชย์ แต่ที่นายกรัฐมนตีพูดถึงเรื่อง FTA ยืนยันเลยว่าในยุคที่ผมเป็น รมว.กระทรวงพาณิชย์ เราทำ FTA เยอะที่สุดยุคหนึ่ง"
จุรินทร์ เปิดเผยว่า ความสำเร็จนับตั้งแต่ RCEP ในรัฐบาลที่แล้วที่ตนนั่งเป็นประธานประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจ 15 ประเทศ ทำให้ RCEP บังคับใช้ได้ ซึ่งกลายเป็น FTA ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นอกจากนี้ยังมี FTA ระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป 27 ประเทศ ตนเดินทางไปเจรจากับรัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปด้วยตัวเอง ก่อนจะพ้นตำแหน่ง และได้ประกาศร่วมกันอย่างเป็นทางการว่าจะนับหนึ่งในการดำเนินการ เพื่อนำไปสู่การประกาศใช้ต่อไป ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่มีความคืบหน้าเป็นรูปธรรมเป็นอย่างมาก
ขณะเดียวกันยังมี FTA ระหว่างไทยกับ UAE ตะวันออกกลาง และ FTA ไทย-EFTA ที่มี 4 ประเทศคือไอซ์แลนด์ สวิสเซอร์แลนด์ ลิกเตนสไตล์ นอร์เวย์ ซึ่งเป็นการนับหนึ่งในการเจรจาเพื่อจะลงนามกันต่อไป ที่สำคัญยังมี Mini-FTA ที่เกิดขึ้นในยุคตน ซึ่งมีการเซ็นต์สัญญา Mini-FTA อย่างน้อย 7 ฉบับ เช่น กับไหหลำ กับ มณฑก่านซู่ กับเมืองเซิ่นเจิ้น และของเกาหลีใต้ก็มีที่ทำกับเมืองคยองกี เมืองปูซาน ของ เกาหลีใต้ และกับเมืองโคฟุ ของญี่ปุ่น รวมถึงกับรัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นนวัตกรรมการค้าเชิงลึก เป็น FTA ระหว่างรัฐหรือเมืองสำคัญ โดยไม่จำเป็นต้องทำระหว่างประเทศเสมอไป
ขณะเดียวกันจุรินทร์ ยังบอกด้วยว่า ตนเองเป็นเซลล์แมนประเทศตัวจริงในขณะนั้น ซึ่งเป็นคำที่นายกรัฐมนตรีได้นำมาใช้อยู่ในขณะนี้ โดยตนใช้มาก่อน พร้อมออกตัวว่าถ้าพูดเรื่อง FTA ตนไม่ขอวิจารณ์รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์คนใหม่ แต่ถ้านายกรัฐมนตรีมาบอกว่า 4 ปีตนมีผลงานน้อยกว่ารมว.พาณิชย์คนใหม่ ตนคิดว่าท่านต้องระวังเรื่องข้อมูล "ไวไปมันไม่คุ้มหรอกครับ เดี๋ยวจะไปสร้างความเสียหายเหมือนกับประเด็นที่เคยเป็นมาอีก”
จุรินทร์กล่าวสุดท้ายว่า ยืนยันว่าไม่ตั้งใจตอบโต้แต่ต้องชี้แจงให้เข้าใจ ส่วนรัฐบาลนี้มาทำงาน 3-4 เดือน แต่นายกรัฐมนตรีบอกว่า 1 ปีนั้น เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรีจะต้องระมัดระวังเรื่องการคิดเร็ว พูดเร็ว ไม่อยากใช้คำว่าปากไวเพราะตนก็ให้เกียรติท่าน