ไม่พบผลการค้นหา
รัฐบาลยอมถอยถอนร่าง พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารฯ หลังเจอวิจารณ์หนัก โดยองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ติงไม่โปร่งใส ไร้ธรรมาภิบาล

เมื่อวันที่ 15 มิ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ ฉบับที่.. พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อนำกลับไปพิจารณาทบทวนให้สอดคล้องกับแผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบมากยิ่งขึ้น และรับข้อสังเกตจากองค์กรต่างๆ อาทิ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ไปพิจารณา

รัชดา

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 พ.ค.องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) หรือ ACT ได้ออกจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เรื่อง การแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 โดยเนื้อหาในจดหมายระบุว่า

ตามที่ท่านนายกรัฐมนตรีได้ประกาศย้ำต่อสาธารณชนให้ การต่อต้านคอร์รัปชันเป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งนโยบายนี้จะสำเร็จได้ จำต้องเริ่มต้นด้วยการเปิดเผยข้อมูลภาครัฐอย่างโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล แม้ว่าขณะนี้รัฐบาลได้เสนอร่างกฎหมายต่อรัฐสภาเพื่อแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการ พ.ศ.2540 แล้ว แต่มีเสียงคัดค้านจากสังคมว่าแนวทางที่รัฐบาลเสนอนั้นไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขัดกับแผนการปฏิรูปประเทศฯ และหลักสากล จนน่าเป็นห่วงว่าจะยิ่งทำให้ปัญหาความไม่โปร่งใสในภาครัฐกลับเลวร้ายลงกว่าเดิม

องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ เห็นด้วยว่า จำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องแก้ไข พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารของทางราชการฯ ตามข้อเรียกร้องจากองค์กรสื่อมวลชน นักวิชาการและภาคประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการศึกษาจัดเตรียมร่างกฎหมายใหม่ที่เหมาะสมไว้แล้วโดย สภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศฯ แต่ทั้งหมดกลับไม่ถูกนำมาใช้โดยไม่ทราบสาเหตุ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ ขอเป็นตัวแทนสังคมเรียนเสนอความเห็นต่อท่านนายกรัฐมนตรี ดังนี้

1. ควรนำร่างกฎหมายที่จัดทำไว้โดยสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศมาใช้ หรือตั้งคณะกรรมการเพื่อจัดทำร่างกฎหมายขึ้นใหม่โดยมีตัวแทนจากประชาชน สื่อมวลชน และนักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนที่สังคมยอมรับร่วมเป็นกรรมการด้วย เพื่อให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายในสังคม

2. กฎหมายฉบับใหม่ต้องเคร่งครัดตามหลักการที่บัญญัติในรัฐธรรมนูญฯ ข้อเสนอของสภาปฏิรูปแห่งชาติ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ และคณะกรรมการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ ที่ล้วนเห็นสอดคล้องกันแล้ว