ไม่พบผลการค้นหา
สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้โพสต์แสดงความคิดเห็น เรื่องขบวนการย้ายหมอสุภัทร เอี่ยว 3 พรรคการเมือง ภูมิใจไทย - พลังประชารัฐ - ประชาธิปัตย์

จากกรณีมีคำสั่งกระทรวงสาธารณสุขที่ 125/2566 เรื่อง ย้ายข้าราชการ ลงนามโดย  นายแพทย์สวัสดิ์ อภิวัจนีวงค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ปฏิบัติราชการแทนปลัด สธ. ซึ่งหนึ่งในผู้ถูกโยกย้ายครั้งนี้คือ นายแพทย์สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ หรือ ‘หมอจุ๊ก’ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจะนะ จังหวัดสงขลา และประธานชมรมแพทย์ชนบท  ถูกย้ายไปเป็นผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา มีผลตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2566

กรณีนี้กลายเป็นกระแแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่ชอบมาพากล ว่าในคำสั่งย้ายดังกล่าว น่าจะมีมูลเหตุจากการเคลื่อนไหวของชมรมแพทย์ชนบทและหมอสุภัทร ที่ได้แสดงความคิดเห็นคัดค้านนโยบายกระทรวงสาธารณสุข หลายนโยบาย ไม่ว่าจะเป็น การโยกย้ายไม่เป็นธรรม, การจัดสรรงบประมาณ, การออกมาทักท้วงและเปิดประเด็นการทุจริตในการจัดซื้อชุดตรวจ  ATK และคัดค้านนโยบายกัญชาเสรี ฯลฯ

29 มกราคม 2566 (เมื่อวานนี้) สมบูรณ์ คำแหง ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชน (กป.อพช.) ได้โพสต์แสดงความคิดเห็นผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า คำสั่งย้ายหมอสุภัทรในครั้งนี้ คือขบวนการกลั่นแกล้งที่เกี่ยวพันกับพรรคภูมิใจไทย และโยงไปถึงพรรคประชาธิปัตย์และพลังประชารัฐด้วย ดังข้อความต่อไปนี้ 

“การย้ายหมอสุภัทรออกจากพื้นที่อำเภอจะนะ เป็นการสมรู้ร่วมคิดและทำกันอย่างเป็นขบวนการ ซึ่งเชื่อว่ามีความเกี่ยวข้องกับพรรคการเมืองไม่น้อยกว่า 3 พรรค คือ ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ และพลังประชารัฐ เพราะถ้าหากย้อนไปในประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา มีความพยายามของนักการเมืองที่จะย้ายหมอมาแล้วหลายครั้ง อาจจะนับย้อนไปตั้งแต่โครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ที่มีการเคลื่อนไหวของชาวบ้านในพื้นที่ในช่วงปี พ.ศ. 2555 – 2560 ซึ่งหมอสุภัทร ได้ออกมาแสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับโครงการนี้อย่างชัดเจน ด้วยเหตุผลของการละเมิดสิทธิชุมชน และวิพากษ์ไปถึงกลุ่มที่ต้องการหาประโยชน์จากโครงการนี้ จนยังความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัดหลังจากโครงการนี้ถูกสั่งยกเลิกไป ซึ่งต้องย้อนไปดูว่าคนของพรรคไหนอยู่เบื้องหลังผลประโยขน์ดังกล่าว และในคราวนั้นก็เริ่มมีความพยายามที่ย้ายหมอสุภัทร เป็นครั้งแรกๆ

“ครั้งที่สอง เกิดขึ้นระหว่างการเคลื่อนไหวของพี่น้องชาวจะนะช่วงปี พ.ศ. 2564 ตอนที่พี่น้องขึ้นไปปักหลักชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเรียกร้องให้มีการยุติโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะไว้ก่อน และเสนอให้มีการจัดทำ SEA. หรือการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในเชิงยุทธศาสตร์ จนทำให้รัฐบาลยอมรับข้อเสนอของชาวบ้าน อันเป็นผลให้มีการยุติโครงการดังกล่าวเอาไว้ก่อน หากแต่ประเด็นที่หมอออกมาวิพากษ์ในโครงการนี้อย่างหนักคือ ความไม่ชอบมาพากลของโครงการที่ดำเนินงานโดยศูนย์อำนวยการบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือ ศอ.บต. ซึ่งคนนั่งหัวโต๊ะคุม ศอ.บต. คือ รองนายกฯ ประวิตร วงศ์สุวรรณ รวมถึงการชี้ให้เห็นถึงผลประโยชน์เรื่องที่ดินเกือบ 2 หมื่นไร่ ที่มีการเอื้อประโยชน์ให้กับบริษัทเอกชนที่เข้ามาดำเนินโครงการนี้ ซึ่งเป็นที่รับรู้กันดีว่า มีนักการเมืองใหญ่ของพรรคประชาธิปัตย์เป็นผู้จัดการในเรื่องนี้ และมีการใช้อำนาจทางการเมืองอำนวยความสะดวกให้อย่างชัดเจน และในครั้งนี้ก็มีการเคลื่อนไหวของฝ่ายการเมือง ที่จะย้ายหมอสุภัทร เป็นครั้งที่สอง

“และครั้งนี้ คือฝีมือล้วนๆ ของพรรคภูมิใจไทย ดังที่เราทราบกันดีแล้วว่า มีความพยายามจะย้ายหมอมาตั้งแต่ครั้งที่ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ รัฐมนตรีอนุทิน ชาญวีรกูล ต่อความผิดพลาดในการบริหารจัดการวัคซีนและเครื่องตรวจเชื้อ หรือ ATK แต่ยังไม่สามารถย้ายได้ เพราะอาจจะดูน่าเกลียดเกินไป แต่พอหมอมาวิพากษ์นโยบายกัญชาเสรี จนกลายเป็นประเด็นข่าว และมีวิวาทะระหว่างหมอกับรัฐมนตรีอนุทินอย่างต่อเนื่องนั้น จึงมีเป็นเหตุผลเพียงพอที่ยังความไม่พอใจกับรัฐมนตรีท่านนี้

“หลังจากนั้นมีเรื่องร้องเรียนและเรียกสอบหมอสุภัทรอีกหลายครั้ง ซึ่งหมอเองก็รู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น คือส่วนหนึ่งของขบวนการที่ต้องการสร้างเรื่องขึ้นเพื่อกลั่นแกล้งตนเอง และคนอย่างหมอสุภัทรเองก็ใช่ว่าจะเกรงกลัวต่อความอยุติธรรมที่เกิดขึ้นในลักษณะนั่น จึงให้ความร่วมมือบ้างไม่ให้ความร่วมมือบ้างตามสิทธิ์ที่พอจะทำได้ ในการถูกเรียกสอบสวนแต่ละครั้ง ซึ่งเรื่องนี้ได้มีหมอคนหนึ่งที่เป็นขี้ข้ารับใช้พรรคภูมิใจไทย เพิ่งออกมาแขวะหมอสุภัทรว่าถูกร้องเรียน ก็ไม่มาให้กรรมการตรวจสอบ ซึ่งเป็นอะไรที่ไร้สาระมากๆ

“การย้ายหมอสุภัทร เป็นเรื่องหนักใจของข้าราชการระดับสูง ซึ่งเป็นที่รับรู้กันดีและอาจจะมีความเสี่ยงที่จะถูกฟ้องศาลปกครองได้ ดังนั้นจึงมีการวางแผนการอย่างแยบยลพอสมควรกล่าวคือ เริ่มต้นจากการทำให้ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาลสะบ้าย้อยว่างลงก่อน และทำเสมือนว่ามีปัญหามากไม่สามารถหาใครมาแก้ไขปัญหาได้ ซึ่งเรื่องนี้ได้กล่าวเป็นข้ออ้างสำคัญที่คนในกระทรวงสาธารณะสุขใช้เป็นข้ออ้าง ตั้งแต่รัฐมนตรี ปลัด และผู้ตรวจรารการฯ คนที่เซ็นต์สั่งย้ายหมอ โดยมีการให้สัมภาษณ์สื่อไปในทางเดียวกันว่า ต้องการคนมีความสามารถไปช่วยแก้ปัญหาที่โรงพยาบาลอำเภอสะบ้าย้อย ซึ่งจะทำให้เข้าหลักเกณฑ์ที่สามารถย้ายได้ ถึงกระนั้นก็ตามเรื่องนี้ก็ยังมีความย้อนแย้งกับบางคนที่ออกมาให้ข่าวว่า ที่ย้ายเพราะหมอสุภัทรเพราะถูกร้องเรียนและไม่ยอมรับการสอบสวน ซึ่งเป็นเกมที่ถูกวางไว้เดิมอยู่แล้ว

“ประชาชนเขาไม่ได้โง่นะครับ ท่านรัฐมนตรี ท่านปลัด และท่านผู้ตรวจฯ ใครเขาก็มองออกว่า การย้ายหมอครั้งนี้มันไม่ใช่เรื่องปกติ และไม่ใช่เหตุผลว่ากระทรวงสาธารณะสุขสิ้นไร้ไม้ตอกถึงขั้นไม่มีบุคลากรที่มีความสามารถที่จะเข้าไปแก้ไขปัญหาที่โรงพยาบาลสะบ้าย้อยแต่อย่างใด และเขาก็ต่างรู้กันว่าพวกท่านทั้งหลายวางแผนเรื่องนี้กันอย่างเป็นระบบ โดยเริ่มจากการตั้งเรื่องร้องเรียนและให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนหมอสุภัทร หลังจ่ากนั้นท่านก็ทำให้ตำแหน่งในอำเภอสะบ้าย้อยว่างลง และรัฐมนตรีอนุทินก็ออกประกาศกระทรวงฯเมื่อวันที่ 23 มกราคม 2566 ให้อำนาจผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ มีอำนาจในการลงนามย้ายข้าราชการภายในแทนปลัดกระทรวงฯได้ หลังจากนั้นอีก 2 วัน คือวันที่ 25 มกราคม 2566 ผู้ตรวจท่านนั้น ซึ่งหากย้อนไปดูว่าท่านมาจกไหน ถึงมาย้ายหมอสุภัทรได้ อันนี้ก็ไม่ธรรมดา เหมือนกับรับงานท่านรัฐมนตรีมาเต็มๆ แล้วท่านก็รีบลงนามย้ายแบบทันควัน ซึ่งน่าสงสัยว่าทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้ ทำไมไม่ทำตามวัฒนธรรมปกติ คือใช้อำนาจปลัดกระทรวงฯ หรือว่าปลัดและผู้ตรวจท่านอื่นๆไม่กล้าลงนาม

“ส่วนตัวแล้วเชื่อว่าหมอสุภัทร มิได้รังเกียจหรือตั้งแง่ต่อการไปดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการในพื้นที่อำเภอสะบ้าย้อย เพราะที่นั่นคือถิ่นเดิมของท่านอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นอำเภอที่ได้เริ่มต้นชีวิตข้าราชการ และยังเชื่อด้วยว่าคนสะบ้าย้อยเองก็เข้าใจสิ่งที่หมอสุภัทร กำลังเรียกร้องความยุติธรรมให้กับตนเอง จากอำนาจที่เหนือยกว่าซึ่งไม่น่าจะเป็นธรรมนัก ซึ่งคิดว่าเป็นสิ่งที่ข้าราชการทุกคนไม่ควรศิโรราบกับอำนาจเช่นนี้

“จากรูปการที่สาธยายมาทั้งหมดนี้ พอจะเห็นที่มาที่ไปและความลึกตื้นหน้าบางของพรรคการเมืองทั้ง 3 พรรคกันมั้ยละครับ ซึ่งพออ่านกันได้ว่าแต่ละพรรคต่างสะสมความเจ็บแค้นมาพอสมควร จึงได้โอกาสในคราวนี้ที่หวังว่าจะจัดการกับ นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ ให้เสร็จสิ้นไปเสียที”

ที่มา https://www.facebook.com/somboon.khamhang/posts/pfbid02M7EgnP4bNckJTVsZ854fN4qbPbLeCS8hdq4pXZZLypvw62Grp1pKEBhNMWe6mA4hl