ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 25 ต.ค. 2563 ที่บริเวณสวนสาธารณะกลางเมืองพิษณุโลก หน้าวิทยาลัยอาชีวะศึกษาพิษณุโลก กลุ่มนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยนเรศวรที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า NU MOVEMENT และ กลุ่มพิษณุโลกปลดแอก นักศึกษาจากมหาวิทยาลัย สถาบันต่างๆ ใน จ.พิษณุโลก รวมกลุ่มชุมนุมคู่ขนานกับกิจกรรมที่กรุงเทพมหานคร รียกร้องสิทธิทางการเมืองของเยาวชนและไม่ใช้ความรุนแรงกับผู้ชุมนุมในทุกๆ ด้าน

โดยก่อนการชุมนุม กลุ่มผุ้ชุมนุมได้ทำพิธีสู่ขวัญแก่ผู้ร่วมชุมนุม และนักศึกษาที่กำลังจะไปเกณฑ์ทหาร จากนั้น ปองภพ ดั่นสมานฉันชัย แกนนำนิสิตขึ้นกล่าวปราศรัย และสลับสับเปลี่ยนกันกับตัวแทนผู้ชุมนุมขึ้นเวที และมีนิสิตนักศึกษาทยอยเดินทางมาร่วมชุมนุม ประมาณ 700 คน โดยผู้ชุมนุมที่เข้าร่วมได้มีการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์เป็นผ้าขาวผูกที่ผมแสดงถึงความเสมอภาค เสรีภาพและภราดรภาพ 

สำหรับประเด็นที่พูดบนเวทีปราศรัยของกลุ่มผู้ชุมนุม เป็นการกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆ ในการประท้วง และการทำงานของเจ้าหน้าที่ การบริหารเศรษฐกิจประเทศ และเป็นกำลังใจให้กับกลุ่มผู้ชุมนุมที่กรุงเทพฯ รวมทั้งกล่าวถึงสิทธิทางการเมืองของเยาวชน ไม่ใช้ความรุนแรง และข้อเรียกร้อง 3 ข้อ การแสดงละครสื่อความหมาย ใช้ชื่อว่า "เชือก" พร้อมกับเปิดแฟลชโทรศัพทฺมือถือ 

ในช่วงท้ายมีการปักหมุดคณะราษฎรภาคเหนือตอนล่าง (เป็นลักษณะแปะติดแท่น ไม่ถาวรเคลื่อนย้ายได้) ท่ามกลางมีเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบมาสังเกตุการณ์

นร.– น.ศ.ปราจีนบุรีไล่ประยุทธ์ลาออก – ยุบสภาฯ

ผู้สื่อข่าวประจำ จ.ปราจีนบุรีรายงานว่า เมื่อเวลา 19.00 น.วันนี้ 25 ต.ค. 2563 มีการชุมนุมแฟลชม็อบของกลุ่มนักเรียนระดับอาชีวศึกษา, มัธยมศึกษา, แรงงานจากโรงงานต่างๆ โดยนัดหมายที่หน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 หน้าที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี (อบจ.) อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรีจำนวนกว่า 70 คน  

• หน้าลานพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 5 อบจ.ปราจีนบุรี

ผู้ชุมนุมปราศรัยโจมตีการบริหารประเทศของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออก, ยุบสภา พร้อมตะโกนขับไล่ "ประยุทธ์ ออกไป" สลับเป็นระยะ ๆ อีกทั้งมีไม้ตาลปัตร ตาลปัตรประดิษฐ์ 4 อัน ( เกิด แก่ เจ็บ ตาย ) รูปถ่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ดอกไม้จันทน์ ทำพิธีบังสกุล                                                                          

ต่อมาเวลา 19.30 น.มี พ.ต.อ.กสินธุ์ ธำรงศรีสุข ผกก.สภ. เมืองปราจีนบุรี ได้มาแจ้งในที่ชุมนุม ขอให้ยุติการชุมนุมในเวลา 21.30 น. เนื่องจาก ไม่ได้มีการยื่นขออนุญาตจัดชุมนุมก่อนหน้านี้ กลุ่มผู้ชุมนุมต่างเข้าใจ ได้มีการปราศรัยจนครบเวลากำหนดได้แยกย้ายโดยสงบ

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า พบพงษ์สิทธิ์ เนื่องจำนงค์ ปลัด จ.ปราจีนบุรี, นรเสฏฐ์ ศรีตะพัสโส นายอำเภอเมืองปราจีนบุรี, เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จ.ปราจีนบุรี และกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบ รวมจำนวนกว่า 50 นาย คอยอำนวยการให้ความสะดวกในการชุมนุม โดยจัดบริการให้ผู้ร่วมชุมนุมมีการตรวจคัดกรองป้องกันเชื้อโควิด-19 ให้ทุกคนสวมหน้ากากอนามัย,วัดอุณหภูมิ , ตรวจค้นอาวุธ

แนวร่วม 20 จังหวัดภาคอีสานรวมตัวที่อุดรธานี จี้แก้ไข รธน.

กลุ่มแนวร่วม 20 จังหวัดภาคอีสานเพื่อประชาธิปไตยนัดรวมตัวกันชุมนุม ณ สวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติกาญจนภิเษก อ.เมือง จ.มุกดาหาร เมื่อเวลาประมาณ 16.00 น. เมื่อวันที่ 25 ต.ค. 2563 มีอัษฎาวุธ นพเคราะห์ และหน่อย เสรีชน เป็นแกนนำกล่าวกับผู้ชุมนุม ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันปราศรัย ซึ่งมีแนวร่วมชุมนุมจากหลายจังหวัดในภาคอีสาน มาร่วมชุมนุม ประมาณ 100 คน เพื่อเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

อัษฎาวุธ นพเคราะห์ แกนนำ นปช.จังหวัดมุกดาหาร กล่าวว่า กลุ่มแนวร่วม 20 จังหวัดภาคอีสาน ได้รวมตัวกันทำกิจกรรมเพื่อให้พล.อ.ประยุทธ์ ลาออก พร้อมให้มีรัฐธรรมนูญใหม่

การรวมตัวกันของแนวร่วม 20 จังหวัดภาคอีสาน วันนี้อาจจะมาไม่ครบ แต่ก็ถือว่ามาแสดงจุดยืนร่วมกัน ในด้านประชาธิปไตย โดยได้สนับสนุนน้องๆ นักเรียน นักศึกษา เวทีนี้เป็นเวทีแรกของแนวร่วม 20 จังหวัดอีสาน เริ่มต้นที่มุกดาหาร ผู้ร่วมชุมนุมมาจากอำนาจเจริญ อุบลราชานี ขอนแก่น มหาสารคาม ต่อไปจะเริ่มขยายออกไปเรื่อย ๆ ให้ครบ 20 จังหวัด เพื่อทำกิจกรรมร่วมกัน หลังจากนี้จะได้นัดกันอีกทีว่าจะไปต่อจังหวัดอะไรที่ใหน

ชาติอาทิตย์ ฑัณฑะรักษ์ ตัวแทนคนเสื้อแดง จังหวัดมหาสารคาม กล่าวว่า แกนนำกลุ่มเสื้อแดงภาคอีสาน 20 จังหวัด ที่เคยต่อสู้ร่วมกันมา เห็นว่ากิจกรรมภายในนักศึกษา ที่เรียกร้องในปัจจุบันสอดคล้องกับแนวทางของคนเสื้อแดง จึงมาสนับสนุนนักศึกษา ในลักษณะส่งเสริมสนับสนุน และยืนหยัดยืนยันในข้อเรียกร้องของนักศึกษา ในเรื่องเกี่ยวข้องเป็นประชาธิปไตย

อีกทั้งความชอบธรรมของพล.อ.ประยุทธ์ ในการบริหารประเทศหมดไปนานแล้วและที่ชัดเจนขึ้นว่ามวลชนคนรุ่นใหม่ ที่ยื่นคำขาดให้ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อ 2-3 วันที่ผ่านมา แม้นายกฯ จะบอกว่าถอยคนละก้าว แต่ว่าดูท่าทีต่างๆ แล้วนั้น ทางคนเสื้อแดงเห็นว่า ข้อเรียกร้องนั้นทันสถานการณ์ที่สุดคือ พล.อ.ประยุทธ์ ฯ ต้องออกไป และดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สอดคล้องกับเหตุการณ์บ้านเมือง โดยผู้มาร่างรัฐธรรมนูญนั้น ต้องมาจากความเห็นชอบของประชาชน

ส่วนการที่จะเปิดประชุมสภาสมัยวิสามัญ เข้าใจว่าเป็นการเล่นชักกะเย่อ เพราะว่าอีกฝ่ายที่ยังไม่เห็นด้วยก็คงจะเล่นเกมส์ในสภา เพราะฉะนั้นคนเสื้อแดง จึงจัดเวทีคู่ขนาน และจะทำแบบนี้ไปจนกว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เงื่อนไขต่าง ๆ ที่เป็นเผด็จการสืบทอดรัฐธรรมนูญ ต่อมา ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหนก็ตามนั้น ให้หายไปจากสังคมไทย

ทั้งนี้ ภายในพื้นที่การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยมีกลุ่มผู้ชุมนุมเบาบาง เนื่องจากฝนตก มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองมุกดาหาร มารักษาความปลอดภัย มีการตรวจคัดกรองป้องกันโควิด- 19 จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมุกดาหาร และกลุ่มผู้ชุมนุมยุติการชุมนุมเวลา 18.45 น.

• หน้าสวนสาธารณะเฉลิมพระเกียรติกาญจนภิเษก อ.เมือง จ.มุกดาหาร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

• ชุมนุม 'ราษฎรประสงค์' ยุติก่อน 4 ทุ่ม นัดมวลชนยื่นหนังสือทูตเยอรมันพรุ่งนี้
• ทุกคนเป็นแกนนำ! ‘ชุมนุมราชประสงค์’ เปิดพื้นที่แสดงความเห็นทางการเมืองเสรี