ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกศูนย์บัญการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคโควิด กรมราชทัณฑ์ เผยกรณีพบชายเสียชีวิต ติดโควิดจากเรือนจำ หลังพ้นโทษไม่นาน ยันได้รับการตรวจโควิดก่อนออกจากเรือนจำ แต่เป็นกลุ่มไม่แสดงอาการ จึงได้ประสาน รพ. รับตัวไปรักษาต่อแล้ว และเสียชีวิตภายหลัง

เมื่อเวลา 13.00 น. วีระกิตติ์ หาญปริพรรณ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรมราชทัณฑ์ เผย สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคิดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในเรือนจำและทัณฑสถาน ณ วันที่ 27 พ.ค. 64 เวลา 9.00 น. มีผู้ต้องขังติดเชื้อรายใหม่ จำนวน 1,228 ราย รักษาหาย 2,054 ราย ทำให้มีผู้ต้องขังที่ยังติดเชื้ออยู่ในการดูแลกรมราชทัณฑ์ 16,319 ราย รวมเรือนจำ/ทัณฑสถานที่ยังมีผู้ติดเชื้อ จำนวน 14 แห่ง

จากกรณีการเผยแพร่ข้อมูลในสื่อสังคมออนไลน์ ว่ามีชายพ้นโทษจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และติดเชื้อจากเรือนจำฯ ได้นอนเสียชีวิตอยู่บนบาทวิถี เมื่อวันที่ 26 พ.ค. 2564 นั้น ขอเรียนว่า ชายคนดังกล่าวได้รับการตรวจเชื้อโควิด-19 ก่อนพ้นโทษ โดยเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 2564 ได้รับแจ้งจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ว่า ติดโควิด-19 ซึ่งจัดเป็นผู้ป่วยในกลุ่มสีเขียว ที่ไม่มีอาการป่วยแสดง เรือนจำฯ จึงได้ประสานส่งต่อผู้ติดเชื้อรายดังกล่าว รวมกับผู้ต้องขังอีก 3 รายที่พ้นโทษพร้อมกัน ในวันที่ 11 พ.ค. 2564 ไปรับการรักษาจากหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่ต่อ ตามกระบวนการของการรักษาผู้ป่วยทั่วไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยของกรมราชทัณฑ์

สำหรับการมาตรการเตรียมความพร้อมก่อนปล่อยตัวนักโทษเด็ดขาดที่ได้รับการปล่อยตัวจากเรื่อนจำ ทั้งแบบปกติ ปล่อยตัวชั่วคราว และการพักการลงโทษ หรือลดวันต้องโทษจำคุกเรือนจำ ทัณฑสถานทุกแห่ง ต้องดำเนินการตรวจหาสารพนธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ก่อนปล่อยตัวทุกรายและทุกกรณี โดยหากเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานครและพื้นที่เสี่ยงภัย ให้แจ้งชื่อและกำหนดการปล่อยตัวแก่สำนักงานสาธารณสุข ก่อนปล่อยตัวไม่น้อยกว่า 5 วัน และในรายที่สงสัยว่าจะติดเชื้อให้ดำเนินการแยกกักตัว เพื่อสังเกตอาการก่อนปล่อยตัว 14 วัน หากไม่ติดเชื่อจึงปล่อยตัวได้ หากพบว่ามีการติดเชื้อ หรือเป็นผู้ติดเชื้อที่กำลังรักษาตัวอยู่ ให้ประสานหน่วยงานสาธารณสุข หรือโรงพยาบาลแม่ข่ายในพื้นที่ รับตัวเข้าสู่กระบวนการรักษา และในผู้ติดเชื้อที่ได้รับการรักษาจนหายแล้ว ก่อนปล่อยตัวแจ้งโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อติดตามผบต่อเป็นระยะเวลา 14 วัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง