วันที่ 24 ม.ค. 2565 นิโรธ สุนทรเลขา ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือ วิปรัฐบาล ยอมรับปัญหาการเมืองภายในพรรคพลังประชารัฐ ส่งผลกระทบต่อเสียงของรัฐบาลในสภาผู้แทนราษฎร เพราะปกติเสียงรัฐบาลเกินกึ่งไม่เท่าไร ประมาณ 20 กว่า เมื่อมีสมาชิกแยกออก 21เสียง ก็จะทำให้มีปัญหา แต่ตนคิดว่า ร.อ ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ แม้จะออกไปอยู่พรรคใหม่ ก็ยังคงสนับสนุนรัฐบาลต่อ เพราะเห็นมีการแถลงข่าวเช่นนั้น และ ร.อ ธรรมนัส ก็ได้พูดคุยกับตนเอง โดยยืนยันว่า เรายังเป็นพี่น้องร่วมทำงานกันเหมือนเดิม ยังพูดคุยกันได้เหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม เสียงที่รวมกันอยู่ทั้งหมด ก็ยังเกินอยู่ไม่เท่าไร และธรรมชาติเวลาการประชุมสภาฯ ส.ส.บางครั้งมีการลาป่วยบ้าง ติดภารกิจบ้าง 

ส่วนการรับมือในสภาโดยเฉพาะการพิจารณากฎหมายลูก กำลังจะเข้าสู่การพิจารณา เชื่อว่าฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านจะร่วมมือกันในเรื่องดังกล่าว เพราะถือว่าเป็นกฎหมายสำคัญ เป็นกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญในการเลือกตั้ง เชื่อว่าผู้แทนราษฎรจะช่วยกัน ให้ผ่านไปด้วยดี ประเด็นนี้คิดว่าไม่น่ามีปัญหา 

นิโรธ บอกด้วยว่าตนเข้ามาในช่วงรอยต่อ และเป็นช่วงปีที่ 3 สิ่งที่ไม่คาดฝัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ แต่ตนก็ได้พยายามทำหน้าที่อย่างเต็มกำลัง ความสามารถ จะเห็นได้ว่าที่ผ่านมาสภายังไม่ได้ล่มจริงๆ และก็ผ่านไปได้ กฎหมายสำคัญ 4 ฉบับก็ผ่าน 

ส่วนกรณีที่รัฐมนตรีบางคนติดโควิด-19 และมีความใกล้ชิดกับ ส.ส.บางส่วน เป็นส่วนหนึ่งที่อาจจะต้องมีการกักตัวกัน ซึ่งตนได้แจ้งไปยังกลุ่มผู้แทนพรรคพลังประชารัฐ ให้ไปตรวจ ATK ให้เรียบร้อย และตนก็ตรวจแล้วปลอดภัย และได้รายงานให้ ชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้รับทราบแล้ว ทั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าชงให้เลื่อนการประชุม แต่มันคือความรับผิดชอบที่ต้องแจ้งให้ประธานรับทราบว่ามีกรณีนี้ เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ ย้ำเสียงในสภาคงไม่น่ากังวล อย่างที่ ร.อ ธรรมนัส แถลงไว้ และย้ำว่า ยังทำงานสนับสนุนรัฐบาลเหมือนเดิม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เหมือนเดิม 

นิโรธ กล่าวว่าสำหรับ กรรมการบริหารพรรคที่ถูกขับออก ต้องตั้งในที่ประชุมใหญ่ ขณะนี้หัวหน้าพรรคสามารถมอบหมายให้รักษาการแทนได้ ส่วนการขับออกจะรายงาน กกต.ภายใน 15 วัน ซึ่งหลังเกิดเหตุวิกฤติภายในพรรคพลังประชารัฐ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ บอกว่าไม่มีปัญหา ในเรื่องขององค์ประชุม และขอให้ช่วยกันทำงานให้กับพรรคและรัฐบาล เป็นการทำงานให้กับสภาฯ และรัฐบาล 

ส่วน สมศักดิ์ พันธ์เกษม ส.ส. นครราชสีมา พรรคพลังประชารัฐ ออกมาคัดค้าน ขอให้พรรคทบทวนมติขับออกจากพรรค นิโรธกล่าวว่า เท่าที่ทราบสมศักดิ์ ได้ยื่นคำร้องเข้ามาปกติแล้วถ้าอุทธรณ์ทางพรรคก็ต้องรับพิจารณา ซึ่งการทบทวนมติขับไล่ คงทบทวนเฉพาะบุคคลที่อุทธรณ์ ซึ่งยังมีเวลาอีกกว่า สัปดาห์ ที่จะแจ้งต่อ กกต. และเชื่อว่าจากนี้จะไม่มีสึนามิในพรรคอีก และขอสภาฯ อย่าล่มกันบ่อยเลย ส่วนมีกลิ่นยุบสภาหลังกฎหมายลูกเสร็จหรือไม่ นิโรธกล่าวว่า จมูกไม่ค่อยได้กลิ่น คิดว่ายังไม่มี