นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อ และรองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การประกาศเจตนารมย์ของไทยในการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพการจัด InterPride World Conference 2025 และเตรียมเสนอเป็นเจ้าภาพ WorldPride 2030 โดยนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นอีกหนึ่งความตั้งใจของรัฐบาลที่ต้องการอยู่ร่วมกับความหลากหลายและการสร้างความเสมอภาค เป็นหมุดหมายสำคัญในการสร้างสังคมประชาธิปไตยที่น่าอยู่สำหรับคนทุกอัตลักษณ์ ซึ่งในรัฐบาลนี้ ทุกฝ่ายได้ร่วมกันผลักดันกฎหมายที่สร้างการเปลี่ยนแปลงใหม่ให้กับสังคมไทยหลายภารกิจ และยังมีอีกหลายภารกิจรออยู่ แม้ที่ผ่านมาจะมีความเห็นที่หลากหลายแตกต่าง แต่ทุกฝ่ายจะร่วมกันทำงานต่อไป ซึ่งหลายอย่างไม่อาจสำเร็จได้ด้วยแรงผลักดันของรัฐบาลเพียงลำพัง ต้องอาศัยความร่วมมือและความกระตือรือร้นของพลังจากทุกภาคส่วนในสังคม รวมทั้งเสียงสนับสนุนของทุกพรรคการเมืองในสภาฯ เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมและทลายอุปสรรคต่างๆ เพื่อไปสู่จุดหมายนั้น

ทั้งนี้ แม้การผ่านกฎหมายสมรสเท่าเทียมจะเป็นหนึ่งในความสำเร็จครั้งใหญ่ แต่เรายังมีภารกิจอีกหลายด้านและยังมีกฎหมายอีกหลายฉบับที่ต้องเดินหน้าแก้ไขกันต่อไป เพื่อสร้างสังคมแห่งความหลากหลายที่เท่าเทียม เสรี และเป็นธรรม ให้ไทยได้รับการยอมรับบนเวทีโลก อย่างเช่นการเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัด WorldPride ซึ่งไม่ได้มีแค่เหตุผลของการกระตุ้นเศรษฐกิจและดึงดูดการท่องเที่ยวซึ่งเป็นผลพลอยได้ทางอ้อมเท่านั้น แต่หัวใจสำคัญของการเป็นเจ้าภาพ World Pride คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายและสังคมในระหว่างทาง ที่จะช่วยยกระดับพื้นฐานด้านสิทธิมนุษยชนและสร้างกลไกปกป้องคุ้มครองกลุ่มคนผู้มีความหลากหลาย ซึ่งถูกมองข้ามและทอดทิ้งมายาวนาน ให้พวกเขามีที่ยืนในสังคมอย่างเสมอภาค ให้สามารถภูมิใจในตัวตนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของตนเอง

'ดิฉันเชื่อว่า หากทุกฝ่ายร่วมมือกันเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงไปทีละขั้น จนเดินไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ จะไม่ใช่แค่เพียงกลุ่มผู้มีความหลากหลายเท่านั้นที่จะมีความภาคภูมิใจ แต่คนไทยทุกคนจะร่วมกันแบ่งปันความภูมิใจ ที่เราสร้างสังคมไทยให้กลายเป็นบ้านที่น่าอยู่ และเป็นบ้านที่ได้รับการยอมรับและชื่นชมจากสายตาของคนทั่วโลกได้สำเร็จค่ะ' นางสาวขัตติยากล่าว