ซีเอ็นเอ็นรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า โจ ไบเดน ว่าที่ประธานาธิบดีคนที่ 46 ของสหรัฐฯ ได้เสนอชื่อ พล.อ.ลอยด์ ออสติน อดีตผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการกลางกองทัพสหรัฐฯ (US Central Command) เป็นว่าที่รัฐมนตรีกลาโหมคนใหม่ ผิดจากก่อนหน้านี้ที่หลายฝ่ายคาดว่า 'มิเชล โฟลวร์นอย' อดีตคณะทำงานด้านความมั่นคงสมัยรัฐบาลประธานาธิบดีโอบามา จะได้รับเลือกเป็นสตรีคนแรกที่ได้นั่งเป็นรัฐมนตรีกลาโหม
รายงานระบุว่า ออสติน วัย 67 ปี เป็นนายทหารยศพลเอก 4 ดาว สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยเวสต์พอยต์ เมื่อปี 2518 เข้ารับราชการในกองทัพสหรัฐ ด้วยชั้นยศร้อยตรี เคยดำรงตำแหน่งรองเสนาธิการกองทัพบก โดยตำแหน่งสุดท้ายก่อนเกษียณราชการคือผู้บัญชาการกองบัญชาการกลางทัพสหรัฐฯ โดยหากเขาผ่านรับรองจากสภาคองเกรส จะถือเป็นนายพลชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันคนแรกที่ได้ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในเพนตากอน ทั้งยังถือเป็นนายทหารเกษียณราชการคนที่ 3 ที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ต่อจากพล.อ.จอร์จ มาร์แชลล์ และพล.อ.เจมส์ แมตทิส
อย่างไรก็ดี พล.อ.ออสติน จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติจากสภาคองเกรสก่อนที่จะดำรงตำแหน่งรมว.กลาโหม ซึ่งเป็นตำแหน่งของพลเรือน เนื่องจากตามกฎหมายสหรัฐ กำหนดคุณสมบัติผูู้เป็นรัฐมนตรีกลาโหมว่าต้อง เกษียณหรือพ้นหน้าที่จากกองทัพมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 ปี แต่พล.อ.ออสตินเพิ่งเกษียณราชการได้เพียง 4 ปีเท่านั้น
ก่อนหน้านี้ พล.อ.เจมส์ แมตทิส อดีตนายพลสังกัดนาวิกโยธิน เคยได้รับการยกเว้นจากสภาคองเกรสให้นั่งเก้าอี้รมว.กลาโหมภายใต้รัฐบาลปธน.ทรัมป์ได้ แม้ว่าจะมีวุฒิสมาชิกฝั่งแดโมแครตบางรายแสดงความกังวลเกี่ยวกับการรักษาตำแหน่งผู้นำพลเรือนในกองทัพ แต่สุดท้ายสภาก็ผ่านความเห็นชอบรับรองให้แมตทิส นั่งเก้าอี้รมว.กลาโหมเมื่อปี 2560 ก่อนจะลาออก หลังดำรงตำแหน่งได้เพียงปีเศษ เนื่องจากขัดแย้งในหลายประเด็นกับผู้นำสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์มองว่า เหตุที่ไบเดนเสนอชื่อ พล.อ.ออสติน แทน 'โฟลวร์นอย' นั้น อาจเกี่ยวข้องกับความคุ้นเคยตั้งแต่สมัยที่ พล.อ.ออสติน ดำรงตำแหน่งในคณะเสนาธิการทหารร่วม ซึ่งมีโอกาสทำงานร่วมกับไบเดนหลายครั้ง สมัยที่ดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีภายใต้รัฐบาลโอบามา
ข่าวที่เกี่ยวข้อง :
- 'มิเชล โฟลวร์นอย' ผู้หญิงที่ปักกิ่ง(ควร)กลัว
- 'ทรัมป์' ทิ้งทวน ปลดฟ้าผ่า 'มาร์ก เอสเปอร์' พ้น รมว.กลาโหม
