พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 และการประสานกับกระทรวงต่างประเทศได้รับทราบข้อมูลมีคนไทยในต่างประเทศอีกจำนวนมากที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย ซึ่งภาครัฐโดยความร่วมมือกับภาคเอกชนจำเป็นต้องเตรียมพื้นที่และการบริหารจัดการคัดกรองเข้าสู่กระบวนการกักควบคุมโรคแห่งรัฐที่กำหนด (State Quarantine) ให้มีจำนวนเพียงพอสำหรับอำนวยความสะดวกรองรับคนไทยที่ทยอยเดินทางกลับเข้ามา โดยเฉพาะเที่ยวบินจากต่างประเทศที่บินตรงลง ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา
ด้าน พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม พร้อมคณะเดินทางไปค่ายนวมินทราชินี จังหวัดชลบุรี ประชุมหารือและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับหัวหน้าหลายส่วนราชการในพื้นที่
โดยที่ประชุมได้ร่วมกันแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อบูรณาการทรัพยากรและการทำงานร่วมกันของภาครัฐและภาคเอกชนในด้านต่างๆ เพื่อรองรับคนไทยที่ทยอยเดินทางกลับจากต่างประเทศ นอกจากนี้ยังได้ร่วมกันวางแผนขับเคลื่อนการบริหารจัดการระดับพื้นที่และร่วมพิจารณาแผนการใช้โรงแรมในพื้นที่อีก 7 แห่ง จำนวน 2,500 ห้อง เพื่อหมุนเวียนรองรับเป็นพื้นที่กักควบคุมโรคแห่งรัฐเพิ่มเติมจากโรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน ซึ่งมีอยู่เดิมโดยปัจจุบันมีผู้เข้าพักกักควบคุมโรคแล้วจำนวน 577 ห้อง
ซึ่ง พล.อ.ณัฐ ได้กล่าวแสดงความขอบคุณทุกส่วนราชการและย้ำถึงความร่วมมือเป็นปัจจัยของความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคเพื่อความปลอดภัยของสังคมในภาพรวม พร้อมทั้งขอให้ทำงานร่วมกันโดยตั้งอยู่ในความไม่ประมาท จากนั้นได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในพื้นที่กักควบคุมโรคแห่งรัฐ ณ โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ซิตี้ จอมเทียน โดยภาพรวมที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากทุกส่วนราชการ รวมทั้งภาคเอกชนและภาคประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างดียิ่ง ซึ่งถือเป็นต้นแบบของพื้นที่กักควบคุมโรคของรัฐที่สามารถขยายผลรองรับในภูมิภาคต่างๆ ที่มีท่าอากาศยานนานาชาติในอนาคต