วันที่ 30 มี.ค. ที่พรรคเพื่อไทย ชัยเกษม นิติสิริ ชูศักดิ์ ศิรินิล ภูมิธรรม เวชยชัย นพดล ปัทมะ และ จาตุรนต์ ฉายแสง ในฐานะคณะกรรมการด้านประชาธิปไตย กระบวนการยุติธรรม และความเสมอภาคเท่าเทียมพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวผลการประชุมครั้งแรกในวันนี้ 

ชูศักดิ์ กล่าวเริ่มต้นว่า กรรมการชุดนี้ได้ศึกษาเรื่องความเป็นประชาธิปไตยและเห็นตรงกันว่าปัญหาหลักในตอนนี้คือเราไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตย มีแต่รัฐธรรมนูญที่เกิดจากผลพวงรัฐประหาร ทำประชามติโดยยัดเยียดให้ประชาชนเห็นชอบ หากไม่มีรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยก็ไม่มีทางที่ประเทศจะเป็นประชาธิปไตยได้ พรรคเพื่อไทยเรียกร้องมานานให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ที่ผ่านการเลือกตั้งจากประชาชน และเชื่อว่าจะเป็นประชาธิปไตยเหมือนที่เคยทำมาแล้วในอดีต ที่ผ่านมาเพื่อไทยพยายามแก้แต่พบอุปสรรคสำคัญคือคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ระบุว่าให้ทำประชามติ เมื่อจะทำประชามติแต่วุฒิสภาไม่เห็นด้วย ดังนั้นหากเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาล ซึ่งตนเชื่อว่าได้เป็นแน่นอน เรื่องแรกที่จะทำคือขอให้คณะรัฐมนตรีมีมติเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยทำประชามติจากประชาชน 

นอกจากนี้ที่ประชุมยัง เห็นความสำคัญของ “ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” ที่เคยถูกบัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน ปี 2540 พรรคเพื่อไทยเห็นว่าเรื่องนี้ควรได้รับการรื้อฟื้นขึ้นมา เพื่อเป็นหลักประกันสิทธิและการใช้ชีวิตของประชาชน โดยมีมติร่วมกันว่ากฎหมาย วิธีปฏิบัติใดที่ละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ต้องได้รับการกำจัดออกไป

นอกจากนี้คณะกรรมการยังได้ศึกษาความเหลื่อมล้ำ และความเสมอภาคเท่าเทียม ซึ่งขณะนี้เป็นเรื่องใหญ่เพราะมีความเหลื่อมล้ำทั้งทางกฎหมายและการเลือกปฏิบัติ พรรคเพื่อไทยอยากศึกษาเรื่องโครงสร้างที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำเพื่อยกเลิก แก้ไข ปรับปรุง

ส่วนเรื่องสิทธิเสรีภาพของประชาชน คณะกรรมการมองว่าเป็นเรื่องสำคัญ ที่ผ่านมาประชาชนเผชิญกับการถูกคุมขัง โดยไม่ได้รับการประกัน โดยเหตุผลที่เขียนในกฎหมายค่อนข้างกว้าง ใช้ดุลพินิจได้กว้างขวาง คณะกรรมการเห็นว่าต้องปรับปรุงแก้ไขกฎหมาย ป.วิอาญา เพื่อให้หลักประกันกับประชาชนในสิทธิการประกันตัว การประกันตัวต้องเป็นหลัก การไม่ให้ประกันต้องเป็นข้อยกเว้น และต้องเขียนไว้ชัดเจนว่าไม่ให้ประกันในเรื่องใดบ้าง ควรละเว้นการใช้ดุลยพินิจและเขียนข้อความในกฎหมายที่ตีความได้อย่างกว้างขวาง 

ซึ่งทั้ง 4 เรื่องนี้มีความสำคัญต่อประชาชน และจะเป็นหนึ่งในนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยด้วย

ด้านนพดล กล่าวว่า 4 เรื่องนี้เป็นงานเบื้องต้นที่พรรคเพื่อไทยจะทำหากได้เป็นรัฐบาล แม้สังคมและเศรษฐกิจสำคัญ แต่การสร้างประชาธิปไตย การสร้างความเท่าเทียมก็สำคัญ ไม่เพียงแต่การชนะเลือกตั้ง แต่มองเรื่องการบริหารประเทศด้วย

ขณะที่ภูมิธรรม ระบุว่าเรื่องที่ต้องจัดการเบื้องต้นคือโครงสร้างรัฐธรรมนูญ หากแก้ได้ก็จะสามารถปรับส่วนอื่นๆ ได้ ถ้าพื้นฐานดีเรื่องอื่นๆ ก็จะดีตามไปด้วย 

ส่วนจะมีการแก้รัฐธรรมนูญอย่างเร่งด่วนหรือไม่หากเพื่อไทยเป็นรัฐบาล นายชัยเกษม ระบุว่าทุกอย่างเป็นเรื่องเร่งด่วน เพราะทั้งหมดมาจากการร้องเรียน เรียกร้องมาจากประชาชน พรรคจึงรวบรวมนำมาเป็นนโยบายเพื่อแก้ไขต่อไป

เมื่อถามถึง การตั้งข้อสังเกตถึงการที่อดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร บอกว่าจะกลับไทย ว่าเป็นการกลืนเลือด และอาจมีคนไปนอนเฝ้าหน้าคุกซึ่งอาจจะทำให้เกิดความวุ่นวาย ทางคณะกรรมการได้หารือถึงแนวทางรับมือหรือไม่ ภูมิธรรม ตอบว่า ไม่ได้มีการหารือกัน มีแต่พูดถึงการแก้ปัญหาให้ประชาชน และการตัดสินใจของทักษิณ เป็นความคิดและการตัดสินใจส่วนตัว ภารกิจของพรรคเพื่อไทยในขณะนี้คือสังคมค้องการการเปลี่ยนแปลง พรรคจะเป็นเครื่องมือและกลไกนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทั้งด้านเศรษฐกิจ และสังคม ถ้าได้เป็นรัฐบาล พรรคเพื่อไทยต้องวางนโยบายหลักให้กระทรวงต่างๆ และจะทำทุกอย่างพร้อมกันทันที