นายสุทิน คลังแสง ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า กระทู้ถามสดสัปดาห์นี้ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องแผนกระตุ้นเศรษฐกิจและการแก้ปัญหาชาวบ้านที่ภาคอีสาน และไม่มีการตั้งกระทู้เรื่องถวายสัตย์ปฏิญาณตนของนายกรัฐมนตรี เนื่องจากได้ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปไปตามรัฐธรรมนูญมาตรา 152 แล้ว โดย 7 พรรคร่วมฝ่ายค้าน เริ่มทำงานเตรียมความพร้อมร่วมกัน และเตรียมกำหนดตัวบุคคลที่จะอภิปรายเรื่องนี้คาดไว้ประมาณ 15 คน โดยคาดว่าจะใช้เวลาอภิปราย 2 วัน
นายสุทิน กล่าวว่า นอกจากนี้พรรคฝ่ายค้านยังมีมติร่วมกันจะเสนอญัตติตั้ง คณะกรรมาธิการวิสามัญศึกษาหลักเกณฑ์และวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ซึ่งมีการ ลงชื่อ ส.ส. และเตรียมจะยื่นภายในสัปดาห์นี้ ซึ่งทราบว่าทางวิปรัฐบาลก็จะมีการยื่นญัตติเพื่อขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการแบบเดียวกัน และเป็นเรื่องดีหากทั้งสองฝ่ายจะมีการยื่นร่างประกบไปพร้อมกัน
นายโภคิน พลกุล ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ด้านนโยบายและเเผนงาน พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า แม้พรรคร่วมฝ่ายค้านมีความเห็นร่วมกันถึงการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ โดยกระบวนการสภาร่างรัฐธรรมนูญหรือ ส.ส.ร. แต่ก็มีความเห็นตรงกันว่า หมวด 1 รูปแบบของรัฐและอำนาจอธิปไตย กับหมวด 2 พระมหากษัตริย์ มีการบัญญัติไว้เหมาะสมอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงแก้ไข
ส่วนจัดเสนอร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญได้ภายในปีนี้หรือไม่นั้น นายโภคิน บอกว่า ขึ้นอยู่กับความพร้อมของทุกภาคส่วน
ขณะที่นายสุทินคาดว่า จะสามารถเสนอได้โดยเร็ว เนื่องจากทุกฝ่ายมีความพร้อมแล้ว เหลือเพียงฝ่ายรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว
ด้าน น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ เลขาธิการพรรคเพื่อไทย เชื่อว่าญัตติเพื่อเสนอตั้งคณะกรรมาธิการชุดนี้ จะได้รับการตอบรับจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นนโยบายของรัฐบาลอยู่แล้ว ถือว่าเป็นการแสวงจุดร่วมของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม ดังนั้นเพื่อไทยและพรรคร่วมฝ่ายค้านหวังว่าเรื่องนี้จะได้รับการสนับสนุนจากทุกฝ่าย โดยยึดเอาประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นตัวตั้ง
นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปัญหาที่เกิดขึ้นขณะนี้เป็นผลพวงของรัฐธรรมนูญ ทำให้รัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ ดังนั้นในภาวะเศรษฐกิจโลกที่เกิดปัญหาแบบนี้ หัวใจสำคัญคือการสร้างความเชื่อมั่น เพราะขณะนี้มีคำถามถึงเรื่องเสถียรภาพที่ต้องมานั่งแก้ปัญหาให้ตัวเอง จึงทำให้การแก้ปัญหาประชาชนคงทำได้ยาก และทุกคนคงไม่อยากเห็นสภาพการเมืองที่มีการซื้อตัวหรืองูเห่า พร้อมมองว่าไม่มีทางปฏิรูปการเมืองได้ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ จึงเชิญชวนให้ฝ่ายรัฐบาลร่วมกันผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ