นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีสมาชิกกลุ่มสามมิตรออกมาพูดถึงเป็นการสนับสนุน คสช. เพื่อชาติ ว่า วันนี้เห็นได้อย่างชัดเจนแล้วว่า หากใครมีผลประโยชน์ก็มักจะคว้าไว้โดยไม่เห็นหัวประชาชน แต่ทั้งนี้พรรคการเมืองบางพรรคที่กำลังจะจัดตั้งขึ้นใหม่ หากไม่มีจุดยืนทางด้านการเมืองตามระบอบประชาธิปไตยก็ไม่ควรออกมาชี้หน้าด่าคนอื่นให้ตัวเองดูดี เพราะหากยังชักชวนให้เห็นว่าระบอบเผด็จการเป็นสิ่งที่ดี การยึดอำนาจเป็นสิ่งที่ถูกต้องก็จะทำให้สังคมไทยในอนาคตตกต่ำลง และคงจะไม่มีใครสอนลูกหลานเรื่องความถูกต้องได้
นายจิรายุ กล่าวอีกว่า วันนี้เห็นได้ชัดว่าการจัดตั้งพรรคการเมืองเป็น เรื่องของผลประโยชน์ล้วนๆ แต่กลับอ้างทำเพื่อประชาชน ทั้งที่ยังไม่มีจุดยืนทางการเมืองแต่กลับไปส่งเสริมระบอบเผด็จการด้วยการดูด ส.ส. เพื่อให้มีโอกาสเป็นรัฐบาลกับพล.อ.ประยุทธ์ ควรเป็นเรื่องที่สังคมต้องรังเกียจ
ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยมีจุดยืนส่งเสริมระบอบประชาธิปไตยและไม่เอาเผด็จการอย่างชัดเจนมาโดยตลอด
ก่อนหน้านี้ นายสุชาติ ลายน้ำเงิน อดีตส.ส. ลพบุรี พรรคเพื่อไทยได้ยื่นหนังสือต่อประธาน กกต. และเลขาธิการ กกต. เรียกร้องให้ กกต. เพื่อ ระงับและไม่อนุญาตให้จัดตั้งพรรคพลังประชารัฐ และดำเนินคดีกับรองนายกรัฐมนตรี 2 คน รัฐมนตรี 2 คน ในฐานะเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกับกลุ่มสามมิตรกับพวกกระทำการ ผิดต่อรัฐธรรมนูญและ พ.ร.บ.พรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 15, 21,30, 31,45,46, 54,90,92 และ 106 มีโทษจำคุก ถึง 5ปี โดยมีข้อเรียกร้องดังนี้
อีกด้านหนึ่ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่มีฝ่ายการเมืองโจมตีว่าลำเอียงให้กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวทางการเมืองได้มากกว่าพรรคการเมืองอื่น ว่า กลุ่มสามมิตรเคลื่อนไหวพบปะกันก็เหมือนกับการที่พรรคการเมืองนัดกันไปตีกอล์ฟและพูดคุยกัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร แล้วทำไมไม่ไปโจมตีกัน ทำไมถึงไม่บอกว่าพรรคการเมืองเหล่านั้นไปดูดส.ส.บ้าง แล้วถามว่าตนลำเลียงตรงไหน ส่วนตัวยังไม่รู้จักเลยว่ากลุ่มสามมิตรเป็นใคร เขาไปทำอะไรและไปหาใคร