เมื่อวันที่ (10 พฤษภาคม 2561) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็น Thailand 4.0 และเป็นมหานครแห่งอาเซียน โดยจับมือหน่วยงานพันธมิตร ร่วมจัดงาน งาน LED Expo Thailand 2018 และงาน PCB Expo Thailand 2018 ระดมผู้ประกอบการด้านแสงสว่าง ผลิตภัณฑ์หลอดไฟแอลอีดี และแผ่นวงจรไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ จำนวน 250 บริษัท ร่วมโชว์สินค้า และนวัตกรรมจากทุกมุมโลก พร้อมถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านสัมมนาจากผู้เชี่ยวชาญ และการเจรจาธุรกิจกับผู้ซื้อที่มีศักยภาพ โดยทั้งสองงานมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10-12 พฤษภาคม พ.ศ. 2561 ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

คาดสามารถดึงดูดผู้สนใจเข้าร่วมชมงานกว่า 15,000 ราย เพื่อเป็นเวทีกลางในการร่วมกันพัฒนานวัตกรรม และเทคโนโลยีในภาคอุตสาหกรรมแสงสว่างของประเทศไทย ให้เกิดประสิทธิภาพ และนำพาประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน

พิธีเปิดงาน LED Expo Thailand 2018 งานแสดงสินค้าระดับนานาชาติด้านเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ LED ที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และงาน PCB Expo Thailand 2018 งานแสดงสินค้านานาชาติด้านแผ่นวงจรพิมพ์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ทางคณะผู้จัดงานฯ ได้รับเกียรติจาก พลอากาศเอก ประจิน จั่นตอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายรุจ เหราบัตย์ รองผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี

นายรุจ เหราบัตย์ รองผู้ว่าการธุรกิจและบริการ การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) เปิดเผยว่า “ในปีนี้ ทางการไฟฟ้านครหลวงได้เข้ามาเป็นเจ้าภาพการจัดงาน LED Expo Thailand 2018 และงาน PCB Expo Thailand 2018 เป็นครั้งแรก เนื่องด้วยตระหนักถึงความก้าวหน้าอย่างรวดเร็วทางด้านเทคโนโลยีในปัจจุบัน และจากนโยบาย 4.0 ของรัฐบาลที่ต้องการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความมั่งคั่ง มั่นคง และยั่งยืน ทางการไฟฟ้านครหลวง ในฐานะองค์กรชั้นนำผู้รับผิดชอบด้านธุรกิจพลังงานไฟฟ้าในระดับสากลได้มีความตระหนักและเตรียมความพร้อมเพื่อการเป็นองค์กรชั้นนำด้านการควบคุมและจัดการระบบจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคตเพื่อตอบสนองนโยบายขับเคลื่อนประเทศของทางรัฐบาล ภายใต้การเป็น “The MetGE (เดอะเมตจ์) : METRO GRID ENABLER ระบบจัดการโครงข่ายไฟฟ้ามหานคร” นวัตกรรมที่ล้ำสมัยในการจัดการ ระบบไฟฟ้าที่มั่นคง มีพัฒนาขึ้น เพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และตอบสนองคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชนอย่างยั่งยืน เพื่อควบคุมระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ พร้อมรองรับเทคโนโลยีทางด้านพลังงานไฟฟ้าแห่งอนาคต ที่พร้อมให้บริการเชื่อมต่อระบบจำหน่ายไฟฟ้าด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างเพียงพอต่อเนื่องปลอดภัยมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทางการไฟฟ้านครหลวงยังเดินหน้าดำเนินโครงการเปลี่ยนระบบสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟฟ้าใต้ดิน ที่มีระยะทางรวมทั้งสิ้น 214.6 กิโลเมตร กำหนดแล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. 2564 เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า สร้างสภาพแวดล้อมที่สวยงามและปลอดภัย

พร้อมกันนี้ ทางการไฟฟ้านครหลวง ยังมีการจัดทำแอปพลิเคชัน MEA Smart Life สำหรับการบริการรูปแบบใหม่ผ่านโทรศัพท์มือถือ ที่เพิ่มความสะดวก รวดเร็ว ทันสมัย และตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนเมือง ให้บริการด้านไฟฟ้า ชำระค่าไฟฟ้าด้วยบัตรเครดิตผ่านแอปพลิเคชั่น เป็นอีกช่องทางในการแจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง และสามารถตรวจสอบประวัติการใช้ไฟฟ้าย้อนหลัง 6 เดือน รวมถึงฟังก์ชั่นอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีกมากมาย โดยโครงการต่างๆ นี้ จะถูกจัดแสดงขึ้นภายในงาน และในโอกาสครบรอบ 60 ปี การไฟฟ้านครหลวง ตั้งใจว่าจะมุ่งมั่นพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งเพื่อให้มหานครก้าวสู่วิถีอนาคต Smart Power, Smart Life, Smart Energy มุ่งสู่ Smart Metro เพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่การเป็น Thailand 4.0 และเป็นมหานครแห่งอาเซียน