รายงานผลวิจัยฉบับใหม่ของวารสารวิทยาศาสตร์ ระบุว่า หากปราศจากการบริโภคเนื้อสัตว์ และผลิตภัณฑ์จากนมโค จะช่วยลดพื้นที่การทำฟาร์มปศุสัตว์ได้มากกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ทั่วโลก ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวเทียบเท่ากับสหรัฐฯ จีน สหภาพยุโรป และออสเตรเลียรวมกัน โดยที่ผ่านมา ฟาร์มปศุสัตว์สร้างผลกระทบต่อพื้นที่ป่าไม้และแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติของสัคว์จนลดลงอย่างต่อเนื่องอีกด้วย
รายงานชิ้นนี้เก็บข้อมูลและวิเคราะห์ฟาร์มปศุสัตว์ทั่วโลกกว่า 40,000 แห่งใน 119 ประเทศ ครอบคลุมผลิตภัณฑ์อาหารกว่า 40 ประเภท ระบุว่า แหล่งโปรตีนที่ได้จากเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมคิดเป็นเพียงแค่ 37 เปอร์เซ็นต์ของความต้องการโปรตีนของร่างกายในแต่ละวันเท่านั้น ขณะที่ทั่วโลกมีการทำฟาร์มปศุสัตว์ถึง 83 เปอร์เซ็นต์ รวมถึงอัตราการปล่อยก๊าซเรือนกระจกกว่า 60 เปอร์เซ็นต์ก็มาจากภาคกสิกรรม
โจเซฟ พลู จากมหาวิทยาลัยอ๊อกซ์ฟอร์ด สหราชอาณาจักร ผู้เป็น���่วนหนึ่งของการทำงานวิจัยชิ้นนี้กล่าวว่า การรับประทานอาหารประเภทมังสวิรัติ หรือวีแกน น่าจะเป็นวิธีเดียวที่จะลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมบนโลกใบนี้ได้มากที่สุด ซึ่งไม่เพียงแต่ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้ที่ดินและการใช้น้ำอีกด้วย ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าการใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือ การลดการใช้เครื่องบิน
ทั้งนี้ เขายังเสนอให้มีการเก็บภาษีเนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นมเมื่อจำเป็น และเสนอแนะให้ผู้บริโภคเริ่มต้นด้วยการรับประทานอาหารที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพิ่มมากขึ้น และให้เงินสนับสนุนอาหารเพิ่อสุขภาพที่มากขึ้น และคำนึงถึงความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม
ดร. โรสแมรี่ สแตนตัน จากมหาวิทยาลัยนิวเซาท์เวลล์ของออสเตรเลีย กล่าวว่า หากกังวลเรื่องปัญหาการขาดแคลนโปรตีน สามารถรับประทานผัก ถั่ว และธัญพืชต่างๆ ทดแทนการบริโภคเนื้อสัตว์ได้โ และองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ระบุด้วยว่า การบริโภคเนื้อสัตว์เป็นสาเหตุที่สำคัญของการเกิดมะเร็งลำไส้
ที่มา the guardian / Abc
