ไม่พบผลการค้นหา
โฆษกพรรคเพื่อไทย หวั่นการขอเลื่อนเลือกตั้งของพรรคเล็กจะกระทบภาพลักษณ์รัฐบาลและประเทศ ยืนยันเพื่อไทยพร้อมลงสนามเลือกตั้ง 24 ก.พ. 62

นางลดาวัลลิ์ วงศ์ศรีวงศ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง ข่าวพรรคเล็กรวมตัวกันจะเสนอ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ขอเลื่อนการเลือกตั้งเป็นวันที่ 28 เมษายน หรือ 5 พฤษภาคม 2562 โดยอ้างเหตุผลว่าเพื่อสร้างความเสมอภาคและความเป็นธรรมต่อทุกพรรค เนื่องจากความไม่พร้อมของพรรคการเมืองเกิดใหม่ในการเตรียมเข้าสู่สนามการเลือกตั้งนั้น เป็นสิทธิเสนอได้ แต่เป็นหน้าที่ของ กกต. ในการพิจารณาว่าจะเลื่อนหรือไม่

อย่างไรก็ตาม การเลื่อนการเลือกตั้งออกไปจากวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันต่อสื่อมวลชนให้ประชาชนทั่วประเทศทราบ รวมทั้งผู้นำของประเทศต่างๆ ทั่วโลกก็รับรู้กันหมดแล้ว ย่อมจะกระทบความรู้สึกของประชาชนฝ่ายประชาธิปไตยที่คาดหวังว่าจะได้เลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 และจะเสียหายต่อภาพลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี และของประเทศชาติหรือไม่ จะมีอะไรมายืนยันได้ว่าจะไม่มีการเลื่อนเลือกตั้งออกไปอีก เหมือนกับความไม่แน่นอนที่ คสช. เคยกำหนดว่าจะมีการเลือกตั้ง เมื่อปี 2558 แต่แล้วก็มีการเลื่อนถึง 4 ครั้งด้วยเหตุนานาประการ จนส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ และความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นอย่างมาก กกต. จะกล้าเลื่อนการเลือกตั้งออกไปอีกหรือไม่

นางลดาวัลลิ์ กล่าวอีกว่า การออกมาเสนอให้ กกต. เลื่อนการเลือกตั้งของพรรคขนาดเล็กครั้งนี้ น่าจะมีสาเหตุมาจากการตีความคำสั่ง คสช. ฉบับที่ 13/2561 เรื่อง การดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง (เพิ่มเติม) ที่ให้ทุกพรรคต้องมีตัวแทนประจำจังหวัด อย่างน้อยจังหวัดละ 1 คน 1 เขต โดยจะต้องมีสมาชิกพรรคจำนวน 100 คน เพื่อจัดประชุมเลือกตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดเพื่อทำหน้าที่คัดเลือกผู้สมัครรับเลือกตั้งทุกเขตในจังหวัด การหาสมาชิกให้ได้จังหวัดละ 100 คนทุกจังหวัดทั่วประเทศไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับพรรคการเมืองที่ตั้งใหม่ และพรรคขนาดเล็ก ซึ่งเรื่องนี้ฝ่ายกฏหมายพรรคเพื่อไทยเคยติงมาแล้ว

แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายไม่มีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากยังมีประชาชนที่เคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทยอยู่ทุกเขตเลือกตั้งจำนวนมาก และปราศจากการถูกครอบงำตามที่มีข่าวลือ พรรคเพื่อไทยมีความพร้อมเข้าสู่การเลือกตั้ง 24 กุมภาพันธ์ 2562 และเข้าใจประชาชนส่วนใหญ่ที่อยากเลือกตั้ง เพราะต้องการเปลี่ยนแปลงคณะผู้บริหารประเทศใหม่ที่จะสามารถฟื้นฟูเศรษฐกิจ ช่วยแก้ไขปัญหาปากท้องของประชาชนให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน