เครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหินและเครือข่ายคนสงขลาปัตตานีไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหิน ที่ จ.กระบี่ และ อ.เทพา จ.สงขลา ร่วมกันแถลงการณ์เรื่องปฏิบัติการปกป้องสองฝั่งทะเล จากถ่านหิน ที่หน้าองค์การสหประชาชาติ หรือ UN บริเวณถนนราชดำเนิน

โดยวันนี้ (12 ก.พ.) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก สน.นางเลิ้งและตำรวจควบคุมฝูงชน ประมาณ 40 นาย มาดูแลความปลอดภัยกลุ่มผู้ชุมนุม ในขณะที่ชาวบ้านและเยาวชนจากพื้นที่ จ.กระบี่ และ อ.เทพา เดินทางมาร่วม 70 คน 

ด้านนายประสิทธิชัย หนูนวล ผู้ประสานงานเครือข่ายปกป้องอันดามันจากถ่านหิน แถลงจุดประสงค์ในการอ่านแถลงการณ์ ครั้งนี้เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลยุติการสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน และประกาศอารยะขัดขืนขั้นสูงสุด ด้วยการปักหลักชุมนุมและอดอาหาร หลังจากได้เคลื่อนไหวปกป้องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มาเป็นหลายปี แต่ไม่ได้รับการตอบสนองจากรัฐบาล แม้ว่าจะมีการเลื่อนมาเป็นเวลา 3 ปี แต่รัฐบาลกลับอนุญาตให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเดินหน้าโครงการ

ขณะที่นายมัธยม ชายเต็ม ตัวแทนเครือข่ายชาวบ้านเทพา ประกาศจุดยืนนั่งปักหลักอดอาหารจนกว่ารัฐบาลจะมีคำสั่งยกเลิกโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหินทั้งสองพื้นที่ เนื่องจากมีการเดินหน้าโครงการต่อ และมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมไม่ชอบด้วยกฏหมาย ทำให้ส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่ ที่ต้องอพยพจากที่อยู่อาศัย

ล่าสุดมีรายงานว่าได้มีกลุ่มชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ได้เดินทางมาสมทบและเข้าร่วมการอดอาหารแล้ว 33 คน

คำประกาศของกลุ่มเครือข่ายคนสงขลา - ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

เราจะไม่จำนนต่ออำนาจใด...ที่คิดจะคุกคามพวกเรา

“เสียงอาซาน” ที่เคยกังวานในดินแดนแห่งนี้กำลังจะเงียบหายไป นั่นคือเสียงเพรียกของผู้นอบน้อมต่อผู้ทรงสร้างทุกสรรพสิ่ง ที่คอยพร่ำบอกให้พวกเรายำเกรงต่อพระองค์ ผู้ทรงจัดวางทุกอย่างบนโลกใบนี้ไว้ออย่างดีแล้ว

▪ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ได้ถูกกำหนดให้เป็นกลางวัน กลางคืน และทรงห้ามมิให้ล่วงล้ำระหว่างกัน

▪ การขึ้นลงของน้ำทะเล ได้กำหนดความเป็นไปของฝูงปลา และวิถีชีวิตพวกเราที่นี่

▪ สายลม และอากาศอันบริสุทธิ์ยังวนเวียนอยู่ในที่แห่งนี้ไม่เคยเหือดหาย

▪ ผืนฟ้าได้จัดพื้นที่ว่างให้พวกเราทุกคนได้ดำรงอยู่อย่างเท่าเทียมกัน

▪ ผืนดิน คือถิ่นฐานบ้านเรือน และชุมชน ทั้งยังสรรค์สร้างพันธุ์พืชนานาชนิดให้กับพวกเราทุกคน

▪ บรรพบุรุษรุ่นแล้วรุ่นเล่า สั่งสอนให้เราเรียนรู้ภูมิปัญญา และให้เราถ่ายทอดสู่คนรุ่นหลัง

▪ บุตรหลานของพวกเราเจริญเติบโต พร้อมสืบทอดแบบแผนชีวิตตามแนวทางของพระองค์ และพระองค์ก็ได้พร่ำสอนให้พวกเรารักษาหน้าแผ่นดินแห่งนี้ไว้ให้พวกเขาเหล่านั้นตราบนิรันดร์

มาถึงวันนี้...

▪ บ้านของพระผู้เป็นเจ้ากำลังจะถูกกลบฝังใต้สิ่งปลูกสร้างแปลกปลอม

▪ โรงเรียนสอนศาสนาที่คอยบ่มเพาะความคิด จิตวิญญาณของเด็กๆ จะถูกทุบทิ้งทำลาย

▪ สุสาน ที่ซึ่งร่างบรรพบุรุษของพวกเรานอนอยู่อย่างสงบมาหลายชั่วอายุคน กำลังจะถูกเหยียดหยามโดยคนแปลกหน้า

▪ บ้านที่พวกเราเคยพักพิง และฝากชีวิตไว้ใต้ร่มเงาชายคา กำลังจะพังพินาศจากผู้ไม่เคยใยดี

อีกไม่นาน...

▪ เสียงอาซานจะเริ่มแผ่วเบา และจะเงียบหายไปในที่สุด

▪ พระผู้เป็นเจ้าไม่เคยสอนให้พวกเราทำลายหน้าแผ่นดิน ผืนน้ำ และอากาศ

▪ พระองค์ไม่เคยสอนให้พวกเราทำลายธรรมชาติใด บนโลกใบนี้

▪ พระองค์ไม่เคยสอนให้พวกเรายอมรับในลาภ ยศ สรรเสริญ และเงินทองที่ไม่บริสุทธิ์

▪ พระองค์ไม่เคยสอนให้พวกเราจำนนต่อการกดขี่ที่ไร้เหตุผล

▪ และพระองค์ก็ไม่เคยสอนให้พวกเราก้มกราบใคร....นอกจากพระองค์

เราจะยืนหยัดอยู่ตรงนี้ เพื่อปกป้องบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเรา และเราก็จะไม่ก้มกราบใคร..นอกจากพระองค์

​​​​​​​ประกาศ หน้าสำนักงานสหประชาชาติ(ประเทศไทย)

​​​​​​​เครือข่ายคนสงขลา – ปัตตานี ไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา

​​​​​​​​​วันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2561