นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และ ผศ.ดร.ปิยบุตร แส���กนกกุล สองผู้ร่วมก่อตั้งพรรคอนาคตใหม่ แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับประชาชนผ่านเฟซบุ๊กไลฟ์ โดยธนาธร เล่าถึงการเดินทางลงพื้นที่ภาคอีสานในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาว่าได้พบปะกลุ่มคนหลากหลาย ทั้งนักธุรกิจ นักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ ขณะเดียวกันยังพบความเหลื่อมล้ำระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชน รวมถึงปัญหาปากท้องของประชาชน ซึ่งตนมองว่าสาเหตุเกิดจากการเติบโตทางเศรษฐกิจเกิดขึ้นเพียงไม่กี่กลุ่มในปัจจุบัน
ดังนั้น การแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำ ธนาธรมองว่าการกระจายอำนาจเป็นตัวแปรสำคัญ ที่จะสร้างโอกาสและอำนาจในการเข้าถึงแหล่งทุน ทำให้มีโอกาสในการกำหนดอนาคตของตัวเอง ซึ่งในปัจจุบันพบว่าความคิดสร้างสรรค์ถูกรวมเป็นคอขวด ที่กระจุกตัวในส่วนกลางที่ทำให้เกิดความล่าช้าและไม่ตอบโจทย์
เช่นเดียวกับปิยบุตร ได้กล่าวเสริมว่าการกระจายอำนาจ เป็นสิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ยึดเป็นนโยบายนำ ลองสมมติว่าถ้าอำนาจในการตัดสินใจเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน การคมนาคมพื้นฐาน เป็นของแต่ละจังหวัด โดยไม่ผ่านส่วนกลางจะทำให้สามารถย่นระยะเวลาในการรอคำสั่งอนุมัติ และประเทศนี้จะไม่มีแค่กรุงเทพมหานครเท่านั้นที่มีโครงสร้างพื้นฐาน ถ้าในอนาคตมีการแก้กฎหมายให้เกิดการกระจายอำนาจโดยนำภาษีของคนในพื้นที่มาทำพัฒนาพื้นที่ของพวกเขา ตนเชื่อโครงสร้างพื้นฐานในหลายพื้นที่จะเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
สำหรับพรรคอนาคตใหม่ คณะกรรมการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกหนังสือรับแจ้งการจัดตั้งพรรคการเมือง (แบบ พ.ก. 7/2) แล้ว หลังจากยื่นจดแจ้งตั้งพรรคเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา โดยพรรคอนาคตใหม่จะมีการจัดประชุมพรรคครั้งแรกเพื่อเตรียมการจดทะเบียนพรรคอนาคตใหม่ ในวันวันอาทิตย์ที่ 27 พ.ค. 2561 ภายหลังยื่นคำขอต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)
ทั้งนี้ พรรคอนาคตใหม่มีผู้ร่วมก่อตั้งนอกจากนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีทั้งนักวิชาการ ตัวแทนภาคประชาชนและเอกชน เช่น กุลธิดา รุ่งเรืองเกียรติ นักวิชาการอิสระด้านการศึกษา, กฤตนัน ดิษฐบรรจง แกนนำกลุ่มเยาวชนอาสา ทำงานกับกลุ่มวัยรุ่นติดเชื้อเอชไอวี, เคท ครั้งพิบูลย์ นักปกป้องสิทธิของผู้ที่มีความหลากหลายทางเพศ, เท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร นักปรุงเบียร์ นักธุรกิจ มัคคุเทศก์อิสระ, ปิยบุตร แสงกนกกุล นักวิชาการด้านกฎหมายรัฐธรรมนูญ และอนุกูล ทรายเพชร เกษตรกรยุคดิจิทัล นักธุรกิจเพื่อสังคม เป็นต้น
อ่านเพิ่มเติม