ไม่พบผลการค้นหา
"พล.อ.ประวิตร" เร่งช่วยชาวบ้านรายได้น้อย ที่ติดปัญหาหนี้นอกระบบ ชุมชนตื่นตัวขอความช่วยเหลือเพิ่ม เตรียมส่งมอบโฉนดที่ดิน บ้านและทรัพย์สินที่ถูกเจ้าหนี้โกงรอบ 3 กว่า 4,000 ล้านบาท ในวันที่ 20 ก.ย.นี้

พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า การแก้ปัญหาหนี้นอกระบบมีความคืบหน้าไปมาก จากการที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่ากระทรวงกลาโหม ได้กำชับให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงและปลอดภัยในราชอาณาจักร ขับเคลื่อน ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ร่วมกันเข้าไปช่วยแก้ปัญหาในช่วงที่ผ่านมา โดยยึดหลักการให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ตามข้อเท็จจริง ด้วยการจัดให้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยกัน เพื่อทำข้อตกลงร่วมกันตามที่กฎหมายกำหนด 

ทั้งนี้ เดือน ส.ค. ที่ผ่านมา ( 15 ส.ค.- 17ก.ย.61 ) การบังคับใช้มาตรการทางกฎหมาย สามารถเจรจานำไปสู่การไกล่เกลี่ยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วกว่า 4,200 ราย อยู่ระหว่างเจรจา 1,200 ราย สามารถคืนทรัพย์สินให้ประชาชนได้เกือบ 4,300 ล้านบาท เป็นโฉนดที่ดิน กว่า 3,200 ฉบับ และสามารถดำเนินการจับกุมผู้ปล่อยเงินกู้เกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนดได้ทั้งสิ้น 481 ราย ยึดของกลางได้มูลค่ากว่า 370 ล้านบาท 

โดยวันที่ 20 ก.ย.นี้ ฝ่ายความมั่นคง จะส่งมอบโฉนดที่ดิน บ้านและทรัพย์สินที่ถูกฉ้อโกงจากเจ้าหนี้ คืนให้กับประชาชนพร้อมกันทั่วประเทศ ณ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค และกองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ตามนโยบาย พล.อ.ประวิตร ที่ต้องการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ติดจมกับปัญหาหนี้นอกระบบ ให้สามารถกลับมายืนและเดินไปด้วยกัน ซึ่ง พล.อ.ประวิตร จะเป็นประธานมอบโฉนดที่ดินคืนให้กับประชาชนในพื้นที่ภาคอีสานครั้งที่ 3 ณ จ.กาฬสินธุ์ 

พล.ท.คงชีพ กล่าวอีกว่า พล.อ.ประวิตร ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดูปัญหาหนี้นอกระบบในตลาดชุมชน ซึ่งภาพรวมประชาชนมีความเชื่อมั่นการทำงานของฝ่ายความมั่นคงมากขึ้น โดยเราได้รับการร้องเรียนและขอความช่วยเหลือจากประชาชน เพิ่มมากขึ้นกว่า 6 หมื่นราย 

สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับการคลี่คลายปัญหาและเข้าสู่ระบบแล้ว กระทรวงแรงงานและธนาคารของรัฐ จะลงไปให้คำแนะนำและเสริมความรู้และทักษะการประกอบอาชีพให้ เพื่อให้ประชาชนที่เป็นหนี้มีความเข้มแข็งทางอาชีพและรายได้เพิ่มขึ้น สำหรับ ปัญหาความเหลื่อมล้ำการเข้าถึงแหล่งทุน กระทรวงการคลัง ได้จัดหาแหล่งทุนให้ประชาชนเข้าถึงได้มากขึ้น ทั้งธนาคารของรัฐ การปล่อยกู้จากเจ้าหนี้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย หรือพิโกไฟแนนซ์ รวมถึงการจัดทำธนาคารชุมชุนเพื่อให้ประชาชนร่วมกันออม โดยรัฐบาลจะให้การสนับสนุนเงินทุนออมเข้าไปอีกส่วนหนึ่ง เพื่อกระจายให้ชุมชุนสามารถดูแลกันเองได้ 

นอกจากนี้ สิ่งที่เราพบในการลงพื้นที่ คือ การกู้ในส่วนที่เป็นเหตุฉุกเฉินของประชาชนส่วนใหญ่ ใช้เพื่อการรักษาพยาบาลและการศึกษา ซึ่งจะเป็นข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับรัฐบาล สำหรับการวิเคราะห์และประเมินความเหมาะสมในการพัฒนาระบบสวัสดิการ เช่น บัตรทองการรักษาพยาบาล และกองทุนเพื่อการศึกษา ที่เหมาะสมกับประชาชนส่วนใหญ่ โดยไม่เป็นภาระกับครอบครัวของผู้มีรายได้น้อยต่อไป 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง :