ไม่พบผลการค้นหา
อธิบดีกรมศุลกากร ลงนามประกาศยกเลิกข้อบังคับให้ผู้โดยสารแจ้งของมีค่าที่นำติดตัวออกนอกประเทศ เนื่องจากมีเนื้อหาบางประการสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อน

นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ลงนามในประกาศกรมศุลกากร ที่ 79/2561 เรื่องแก้ไขประกาศกรมศุลกากร ที่ 60/2561 ตามที่กรมศุลกากรได้ออกประกาศกรมศุลกากรที่ 60/2561 เรื่องการปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน ลงวันที่ 26 ก.พ. 2561 นั้น

เนื่องจากประกาศกรมศุลกากรฉบับดังกล่าว มีเนื้อหาบางประการสร้างความเข้าใจคลาดเคลื่อนในการปฏิบัติพิธีการศุลกากร ดังนั้น จึงให้แก้ไขโดยให้ยกเลิกความในข้อ 4 การรับแจ้งของมีค่าที่ผู้โดยสารนำติดตัวออกไปนอกราชอาณาจักร ของประกาศฉบับดังกล่าวเสียทั้งสิ้น

10-4-2561 14-42-21.jpg

โดยเนื้อหาในข้อ 4 ของประกาศกรมศุลกากร ที่ 60/2561 เรื่องการปฏิบัติพิธีการศุลกากรของติดตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวเข้ามาหรือส่งออกไปนอกราชอาณาจักรพร้อมกับตนทางท่าอากาศยาน คือ การแจ้งของมีค่าที่ผู้โดยสารนำติดตัวออกไปนอกราชอาณาจักร สำหรับผู้โดยสารที่จะเดินทางออกไปนอกราชอาณาจักร ที่จะนำของมีค่าออกไปซึ่งเป็นของเก่าที่ใช้แล้ว และมีจำนวนหรือปริมาณพอสมควร รวมทั้งมีเครื่องหมาย เลขหมายที่สามารถตรวจสอบได้ เช่น นาฬิกา กล้องถ่ายวิดีโอ กล้องถ่ายรูป คอมพิวเตอร์สำหรับพกพา เพื่อเป็นหลักฐานในการขอรับการยกเว้นอากรในฐานะของใช้ส่วนตัวตอนนำติดตัวกลับเข้ามาพร้อมกับตน ให้แจ้งต่อพนักงานศุลกากร ณ ห้องที่ทำการศุลกากรบริเวณห้องผู้โดยสารขาออก เมื่อพนักงานศุลกากรตรวจสอบของที่จะนำออกไปแล้ว จะมอบใบรับแจ้งของมีค่าที่ผู้โดยสารนำติดตัวออกไป และจะนำกลับเข้ามาพร้อมกับตนเพื่อแสดงต่อพนักงานศุลกากรช่องแดงในวันเดินทางกลับเข้าประเทศไทย ภายใต้เงื่อนไข ดังนี้

1. เป็นของเก่าใช้แล้วและมีจำนวนพอสมควรแก่การเดินทาง

2. มีเครื่องหมาย เลขหมาย (Serial Number) หรือหลักฐานอื่นที่สามารถตรวจสอบได้

3. มีภาพถ่ายของของที่นำมาแจ้งจำนวนสองชุด

4. พนักงานศุลกากรอาจทำเครื่องหมายเลขหมายไว้เป็นหลักฐาน

ทั้งนี้ ของมีค่าหรือของส่วนตัวผู้โดยสารที่นำติดตัวไปขณะเดินทางออกนอกราชอาณาจักรและใช้เป็นปกติวิสัยในระหว่างการเดินทาง หรือเป็นเครื่องประดับการแต่งกายตามปกติไม่ต้องแจ้งต่อพนักงานศุลกากร 


อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง